posttoday

ทีวีดิจิทัลแข่งชิงเม็ดเงินจำกัด

28 สิงหาคม 2560

เอเยนซีเผยทีวีดิจิทัลจะเหลือช่องเท่าเดิม เม็ดเงินมีจำกัดดันแข่งขันสูง ช่วงนันไพรม์ไทม์ลดแลกแจกแถมเดือด

เอเยนซีเผยทีวีดิจิทัลจะเหลือช่องเท่าเดิม เม็ดเงินมีจำกัดดันแข่งขันสูง ช่วงนันไพรม์ไทม์ลดแลกแจกแถมเดือด

นายรัฐกร สืบสุข อุปนายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจทีวีดิจิทัลในอนาคตคาดว่าจะมีผู้เล่นรายหลักที่ทำตลาดอยู่อย่างแข็งแกร่ง 4-5 ช่องเท่ากับทีวีอะนาล็อกก่อนหน้านี้ เนื่องจากเม็ดเงินโฆษณามีเท่าเดิม แต่ผู้เล่นเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้การแข่งขันของธุรกิจทีวีดิจิทัลในขณะนี้รุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันด้านราคาโฆษณา

ทั้งนี้ ทำให้มีผลต่อการทำตลาดในช่วงนันไพรม์ไทม์ค่อนข้างมาก เนื่องจากปัจจุบันรายการช่วงนันไพรม์ไทม์ขายโฆษณาได้ยาก เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปไม่ได้ดูรายการทีวีตลอดทั้งวันเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งผู้บริโภคส่วนหนึ่งยังหันไปดูรายการทีวีผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ทีวีดิจิทัลต้องหันไปสร้างรายได้นันไพรม์ไทม์ในรูปแบบอื่นๆ เช่น การหารายได้จากช่องทางออนไลน์และการทำอีเวนต์ เป็นต้น

นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งก็หันมาทำรายการใหม่ๆ ที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อนำไปออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ขายโฆษณาได้มากที่สุดและขายได้ราคามากที่สุด จึงเห็นได้ว่าผู้เล่น 5 ช่องหลัก จะหันมาพัฒนารายการใหม่ๆ ในช่วงไพรมไทม์เป็นหลัก ส่วนช่วงนันไพรม์ไทม์จะเป็นรายการทั่วๆ ไปหรือรายการรีรัน

“เมื่อก่อนทีวีแต่ละช่องจะพยายามดันผังรายการตั้งแต่เช้าจนถึงหัวค่ำ แต่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทำให้ทีวีแต่ละช่องต้องหันมาปรับกลยุทธ์การทำตลาด ขณะเดียวกันก็แข่งขันสงครามราคากันรุนแรงทั้งลด แลก แจก แถม จนถึงให้ฟรี ซึ่งปัจจุบันมีการลดราคาถึง 70-90%” นายรัฐกร กล่าว

ขณะเดียวกันยังเห็นได้ว่า ช่องผู้นำจะทำบิ๊กโปรเจกต์ใหม่ๆ มาออกอากาศช่วงไพรม์ไทม์มากขึ้น จากการแข่งขันที่รุนแรงทำให้ตอนนี้แต่ละช่องเริ่มโพสิชั่นนิ่งที่ชัดเจนมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าวางแผนการทำสื่อโฆษณาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างง่าย

ขณะที่ช่องผู้นำหลักอย่างช่อง 3 และช่อง 7 หันมาโฟกัสคุณภาพคอนเทนต์ และทำงานร่วมกับเอเยนซีมากขึ้น ในส่วนของผู้เล่นช่องรองๆ ก็ปรับตัวเช่นกัน ซึ่งรูปแบบของการทำตลาดอาจเปลี่ยนแปลงไป คือ อาจจับมือกับพันธมิตร หรือหาผู้ร่วมทุนมาอุ้มธุรกิจ