สถ. เตรียมปรับปรุงระเบียบการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและการจ่ายเงินเบี้ยความพิการ

นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ล่าสุดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ร่วมประชุมหารือกับทางกรมบัญชีกลาง เกี่ยวกับแนวทางการเบิกจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยความพิการที่จะให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้ทำหน้าที่ในการจ่ายเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารผู้มีสิทธิ์รับเงินโดยตรงแทนส่วนราชการหรือหน่วยงานที่กำกับดูแลสวัสดิการแต่ละประเภทตามแนวทางโครงการการบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคมโครงการ e-payment ภาครัฐ ซึ่งจะมีการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขข้อกฎหมาย/ระเบียบ เพื่อให้รองรับการดำเนินงานที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยความพิการให้คนพิการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2559 และระเบียบการเบิกจ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งขั้นตอนการปฏิบัติงานของระบบบัญชีคอมพิวเตอร์ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (e-LAAS) ซึ่งกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และกรมบัญชีกลางจะร่วมปรึกษาหารือรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติ ในการแก้ไขปรับปรุงระเบียบ กฎหมาย เพื่อรองรับการปฏิบัติอีกครั้ง

อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการขยายเวลาการเปิดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ นั้น คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2559 เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2559 เห็นชอบให้ขยายเวลาการเปิดรับลงทะเบียนผู้สูงอายุเป็นวันที่ 1 มกราคม - 30 พฤศจิกายนของทุกปี โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 เรื่อง การขยายระยะเวลาเปิดรับลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่จากเดิมมีการเปิดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแค่ภายในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเปิดรับลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ตั้งแต่เดือนมกราคม - พฤศจิกายนของทุกปี โดยแนวทางแก้ไขดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการเสนอคณะกรรมการพิจารณาร่างกฎหมายของกระทรวงมหาดไทย ให้พิจารณารายละเอียดของร่างระเบียบฉบับดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 และเมื่อระเบียบดังกล่าวประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับเป็นกฎหมายแล้ว ผู้สูงอายุก็สามารถลงทะเบียนและยื่นคำขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ทันที ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุที่มีความประสงค์จะขอรับสิทธิขึ้นเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อไป