สนพ.รื้อแผนพลังงานทดแทน

สนพ.ปรับ 5 แผนพลังงานระยะยาว ทบทวนนโยบายการซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนใหม่ พร้อมใช้ในปี 2561

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงานเตรียมปรับแผนบูรณาการพลังงานระยะยาวปี 2558-2579 ที่ประกอบด้วย 5 แผน ส่งผลให้มีความจำเป็นที่ สนพ.ต้องเตรียมทบทวนนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบฟีดอินทาริฟให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงมากขึ้น คาดว่าการปรับปรุงจะแล้วเสร็จปีนี้เพื่อใช้ในปี 2561

“จากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงทำให้ต้นทุนพลังงานหมุนเวียนมีแนวโน้มลดลง จึงจำเป็นต้องทบทวนเชื้อเพลิงแต่ละประเภทใหม่เพื่อไม่ให้กระทบค่าไฟประชาชน ซึ่งต้องพิจารณาว่าจำเป็นต้องมีฟีดอินทาริฟหรือไม่ อย่างไร หรือเปลี่ยนเป็นประมูล (บิดดิ้ง) ก็ต้องศึกษาอย่างรอบคอบ ขณะเดียวกันก็ต้องทบทวนปริมาณรับซื้อไฟฟ้าร่วมด้วย”นายประเสริฐ กล่าว

นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า รัฐควรยกเลิกนโยบายฟีดอินทาริฟ โดยควรเปลี่ยนเป็นการเปิดให้มีการแข่งขันหรือบิดดิ้งแทน เนื่องจากเทคโนโลยีมีการพัฒนาไปมาก โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อไม่ให้การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเป็นภาระต้นทุนต่อค่าไฟฟ้ามากเกินไป

“ที่ผ่านมารัฐให้การอุดหนุนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนมาพอสมควรแล้ว และต้องยอมรับว่ามีผลต่อค่าไฟสูงขึ้นจึงน่าจะหมดเวลาอุดหนุนแล้ว เพราะเทคโนโลยีต่างๆ เองก็พัฒนาการเปิดแข่งขันจะทำให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า” นายมนูญ กล่าว

นายดุสิต เครืองาม นายกสมาคมอุตสาหกรรมเซลล์แสงอาทิตย์ไทย กล่าวว่า รัฐอยู่ระหว่างปรับแผนพลังงานภาพรวม ซึ่งจำเป็นต้องปรับแผนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนใหม่ ซึ่งอาจนำไปสู่การทบทวนฟีดอินทาริฟ โดยเห็นว่าควรจะทบทวนในส่วนของผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (เอสพีพี) ตั้งแต่ 10 เมกะวัตต์ขึ้นไป แต่ในส่วนของขนาดผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) ที่ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ ควรจะคงฟีดอินทาริฟไว้เช่นเดิม

“โซลาร์รูฟท็อปเสรีนั้นคิดว่ารัฐควรจะดำเนินการในสิ้นปีนี้ โดยเน้นผลิตเองใช้เอง และที่เหลือก็สามารถขายเข้าระบบได้ โดยราคารับซื้อเท่าใดก็อยู่ที่รัฐจะพิจารณา โดยอาจจะเท่ากับราคาขายส่งก็ได”นายดุสิต กล่าว