posttoday

"สามารถ"ชี้ลดค่าโดยสารสายสีม่วงวันหยุดไม่ได้ผลเท่าที่ควร

11 พฤษภาคม 2560

"สามารถ ราชพลสิทธิ์"ชี้ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงวันหยุดยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ผู้โดยสารเพิ่มไม่มากพอ ทำสูญรายได้ 151,072 บาทต่อวัน

"สามารถ ราชพลสิทธิ์"ชี้ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงวันหยุดยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ผู้โดยสารเพิ่มไม่มากพอ ทำสูญรายได้ 151,072 บาทต่อวัน

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นต่อกรณีที่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน เหลือ 15 บาท ตลอดสายเฉพาะวันหยุด โดยมีรายละเอียดดังนี้

ลดราคาสายสีม่วงวันหยุด15 บาท ตลอดสายได้ผลหรือไม่?

ตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม 2560 เป็นต้นมา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ได้ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-เตาปูน เหลือ 15 บาท ตลอดสายเฉพาะวันหยุด (เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ซึ่งก่อนหน้านั้นคือในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2560 ผมได้โพสต์บทความเรื่อง “ลดราคาสายสีม่วงวันหยุด 15 บาท ตลอดสาย ชกไม่ตรงเป้า” มีใจความสรุปได้ว่า การลดค่าโดยสารเฉพาะวันหยุดจะไม่ได้ผล เพราะวันหยุดเป็นวันที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางอย่างรีบเร่งเหมือนวันทำงาน แต่เป็นวันพักผ่อน ไปเที่ยว หรือไปซื้อของ อีกทั้ง มีรถติดน้อยกว่าวันธรรมดา นอกจากจะไม่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญแล้ว รฟม.ยังจะต้องสูญเสียรายได้ในวันหยุดประมาณวันละ 100,000 บาท อีกด้วย

ถึงวันนี้ มาดูกันว่าการลดค่าโดยสารเหลือ 15 บาท ตลอดสายในวันหยุดนั้นได้ผลหรือไม่ ผมได้เปรียบเทียบจำนวนผู้โดยสารตั้งแต่เดือนกันยายน 2559 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนลดค่าโดยสาร กับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2560 ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังลดค่าโดยสาร พบว่าในวันธรรมดาซึ่งไม่ลดค่าโดยสารมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 23,986 คนต่อวัน เป็น 25,821 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 1,835 คนต่อวัน คิดเป็น 7.7% ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์ซึ่งลดค่าโดยสารเหลือ 15 บาท ตลอดสาย มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก14,909 คนต่อวัน เป็น 16,628 คนต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 1,719 คนต่อวัน คิดเป็น 11.5% นั่นหมายความว่า แม้ในวันธรรมดาซึ่งไม่ลดค่าโดยสารก็มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น โดยอาจมีผลมาจากประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางมาเลือกใช้รถไฟฟ้ากันมากขึ้นหลังจากคุ้นเคยกับแนวเส้นทาง และการเดินทางเข้าออกสถานีรถไฟฟ้า ส่วนในวันเสาร์และอาทิตย์ที่มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลดค่าโดยสาร และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารเช่นเดียวกับวันธรรมดา

การลดค่าโดยสารเหลือ 15 บาท ตลอดสายเฉพาะวันหยุด ทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ไม่มากพอ ส่งผลให้รฟม.ต้องสูญเสียรายได้ในวันเสาร์และอาทิตย์เฉลี่ยถึง 151,072 บาทต่อวัน หรือคิดเป็น 40.8% ของรายได้เฉลี่ยต่อวันในวันเสาร์และอาทิตย์ก่อนลดค่าโดยสาร ดังนั้น ผมเห็นว่าการลดค่าโดยสารเหลือ 15 บาท ตลอดสายในวันหยุดนั้นยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร

ด้วยเหตุนี้ รฟมจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้นทุกวันให้ได้ตามมาตรการเร่งรัด 8 มาตรการ ที่รฟม.ได้ประกาศไว้เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งบางมาตรการ รฟม.ได้นำมาใช้แล้ว บางมาตรการยังไม่นำมาใช้ เช่น การจัดรถรับส่งผู้โดยสารระหว่างบ้าน ที่ทำงานกับสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น ซึ่งเป็นมาตรการที่จะช่วยให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมากแน่ และเป็นมาตรการที่ผมได้เสนอแนะไปตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงในเดือนสิงหาคม 2559

ผมเห็นใจรฟม.ที่ไม่ได้เป็นผู้กำหนดแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้วยตนเอง แต่รฟม.ต้องก่อสร้างรถไฟฟ้าสายนี้ตามแผนแม่บทโครงข่ายรถไฟฟ้าที่กำหนดโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งเป็นเส้นทางที่ผ่านแหล่งที่อยู่อาศัย และแหล่งทำงานน้อย และไม่หนาแน่นพอ ทำให้มีผู้โดยสารน้อย

อย่างไรก็ตาม หากรฟม.ทุ่มเทสรรพกำลังต่างๆ นานาเพื่อฝ่าฟันอุปสรรคที่ขวางหน้าอยู่ในเวลานี้ ผมมั่นใจว่ารฟม.จะสามารถทำได้สำเร็จ นั่นคือ ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ