'เบทาโกร'ทุ่มพันล้าน ปฏิวัติองค์กรใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนปั๊มรายได้แตะ1.4แสนล.

เบทาโกร เผยแผน 3 ปี ลงทุน 1,000 ล้าน ยกเครื่องระบบซัพพลายเชนสู่ดิจิทัล รับวิชั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์คุณภาพดันรายได้โต 15%

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เครือเบทาโกร ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเนื้อไก่ เปิดเผยว่า แผน ระยะ 3 ปี (2560-2563) บริษัทตั้งเป้าทรานส์ฟอร์มสู่องค์กรดิจิทัลด้วยการลงทุน 1,000 ล้านบาท นำระบบอีอาร์พีซอฟต์แวร์มาใช้ในการบริการจัดการ ทั้งระบบซัพพลายเชน ไม่ว่าจะเป็น กระบวนการผลิต โลจิสติกส์ พัฒนาสินค้านวัตกรรมใหม่ที่เน้นคุณภาพ ใช้ บิ๊กดาต้าวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค สอดรับยุทธศาสตร์เบทาโกร ปี 2563-2573 มุ่งเติบโต 10-15% ต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนลงทุนอย่างต่อเนื่อง 4,000-5,000 ล้านบาท/ปี เดินหน้าสร้างโรงงานอาหารแปรรูปจากผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ และสร้างฟาร์มคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ เพื่อรองรับกับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในปริมาณที่มากขึ้น การสร้างโรงอาหารสำหรับสัตว์ และกำลังพิจารณาสร้างโรงงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เพื่อทำให้บริษัทมีโรงงานครอบคลุมทั่วประเทศ จากก่อนหน้าได้เปิดโรงงานไปแล้วที่ จ.สุราษฎร์ธานี

"ความท้าทายการทำธุรกิจส่งออก คือ สถานการณ์โลกที่ผันผวน ในระยะสั้นๆ เผชิญกับผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ที่ยุโรปราคายังไม่ดีมากนัก ซึ่งบริษัทประเมินว่าการส่งออกของกลุ่มเบทาโกรมีราว 7 แสนตัน/ปี จากภาพรวมการส่งออกผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์โดยรวม 7-8 ล้านตัน โดยจะเน้นการทำตลาดอาเซียนเป็นหลัก เพราะผลิตภัณฑ์ไก่สดมีข้อจำกัดจากระบบ โลจิสติกส์ที่ต้องดำเนินการอย่างรวดเร็วอายุของสินค้าค่อนข้างสั้น จากปัจจุบัน คู่แข่งส่งออกไก่แช่แข็ง" นายวสิษฐ กล่าว

อย่างไรก็ดี หลังจากกลุ่มผลิตภัณฑ์เอสเพียว ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู และไข่ ได้รับรางวัลเอ็นเอสเอฟ ซึ่งเป็นองค์กรด้านความปลอดภัยและสาธารณสุขที่ไม่แสวงหาผลกำไร ตอกย้ำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มียาปฏิชีวนะในเนื้อไก่ ถือว่าเบทาโกร สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด บริษัทจะเดินหน้าสร้างตลาดเซ็กเมนต์พรีเมียม เจาะกลุ่มผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ ให้ความสำคัญการเลือกซื้อและบริโภคอาหาร

ขณะที่ตลาดส่งออกยุโรป ญี่ปุ่น เริ่มเข้มงวด เบทาโกรจึงได้เปรียบด้าน การส่งออก ปัจจุบันเอสเพียวส่งออก 15% คาดว่ารายได้ทั้งปีราว 1,400 ล้านบาท หรือมียอดขายเติบโต 15% ผลักดัน รายได้รวมทั้งปีราว 1 แสนล้านบาท เติบโต 10-15% จากเมื่อปีที่ผ่านมาอยู่ที่กว่า 9 หมื่นล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหรือปี 2563 ตั้งเป้ารายได้ 1.4 แสนล้านบาท