เจาะ 7 เมกะเทรนด์การตลาดปีระกา

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

เข้าสู่ปีระกา 2560 วงการตลาดมี 7 แนวโน้มใหญ่หรือเมกะเทรนด์ต้องติดตาม เช่น โลกของการค้ายุคดิจิทัล กลยุทธ์พิชิตยอดขาย สินค้าต้องทำการตลาดเฉพาะรายบุคคล การสร้างประสบการณ์รอบทิศทาง พร้อมกับนำเสนอคอนเทนต์ สดใหม่ ไร้การปรุงแต่ง

วฤตดา วรอาคม หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ดิจิทัลและฝ่ายโซเชียล เอ็มอาร์เอ็ม แมคแคน (ประเทศไทย) ให้ความเห็นว่า เมกะเทรนด์ปี 2560 ที่เกิดขึ้นและมีอิทธิพลต่อการทำตลาด มีด้วยกัน 3 เทรนด์ ได้แก่ เมกะเทรนด์ที่ 1 อุปกรณ์อัจฉริยะ (Automation World) จากการที่เทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นธุรกิจนำกลยุทธ์มาร์เก็ตติ้ง ออโตเมชั่น หรือการทำโฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตัวต่อตัว การนำโปรแกรมเมติกส์มาใช้ รวมทั้งการปรับรูปแบบคอนเทนต์ให้เป็นเรียลไทม์ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะทางด้านยอดขาย

ขณะที่เมกะเทรนด์ที่ 2 การสร้างเนื้อหาหรือคอนเทนต์ถึงผู้บริโภคเฉพาะรายบุคคล (Marketing Personality) ผ่านจากโซเชียลมีเดีย สำหรับในไทยก็สามารถใช้ไลน์เป็นช่องทาง ส่วนจีนก็ใช้วีแชต ในโซนยุโรป อเมริกา ก็เป็นสแนปแชต ทิศทางในปี 2560 แบรนด์ต่างๆ จะลงลึกถึงการสร้างบทสนทนาตัวต่อตัว ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชั่น จากเดิมการส่งข้อความจะทำในลักษณะของแมสหรือสำหรับกลุ่มคนทั่วไปมากกว่า ส่วนเมกะเทรนด์ที่ 3 การสร้างคอนเทนต์ในแบบฉบับไม่ได้ปรุงแต่งให้สวยหรู เพราะที่ผ่านมาการสร้างคอนเทนต์ในยุคเดิมๆ ผ่านเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม เป็นการปรุงแต่งสร้างภาพลักษณ์

“การสร้างวิดีโอคอนเทนต์จะมาแรง เพราะสามารถสื่อสารได้ครอบคลุม 360 องศา ทั้งรูป เสียง และการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังไม่ได้มีการเติมแต่งหรือสร้างคอนเทนต์ ทำให้การสื่อสารมีความน่าเชื่อถือ สำหรับแอพพลิเคชั่นที่มาแรงและคนทั่วโลกเริ่มใช้งานมากขึ้น ได้แก่ แอพพลิเคชั่นสโนว์ (SNOW) เป็นข้อความในรูปแบบวิดีโอ หรือกระทั่งแอพพลิเคชั่น บูเมอแรง เป็นการถ่ายรูปแล้วทำเป็นคลิปวิดีโอสั้นๆ เพื่อแชร์บนโลกโซเชียลมีเดีย โดยคอนเทนต์ที่คาดว่าจะได้รับความสนใจ การสร้างคอนเทนต์เพื่อสังคม และในเชิงของวัฒนธรรม”วฤตดา กล่าว

เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ กล่าวว่า เมกะเทรนด์ที่ทางบริษัทมองมีด้วยกัน 4 เทรนด์ ประกอบด้วย เมกะเทรนด์ที่ 1 การทำตลาดต้องมีความสร้างสรรค์ (Creativity) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค ซึ่งทุกภาคธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลง เช่น โรงพยาบาลก็ต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าใส่ใจดูแลตัวเอง มาที่โรงพยาบาลเพื่อดูแลสุขภาพให้แข็งแรง จากที่ผ่านมาการเข้าโรงพยาบาลเพราะเกิดการเจ็บป่วย  

ทั้งนี้ เมกะเทรนด์ที่ 2 การสร้างประสบการณ์รอบตัว (Immersive Experience) เพื่อกระตุ้นอารมณ์ผู้บริโภค เช่น ร้านอาหารจากนี้ไป การจัดดิสเพลย์บนจานไม่เพียงพอ แต่ต้องนำเชฟมาโชว์ทำอาหาร วิธีการเสิร์ฟสร้างความประทับใจ และเมกะเทรนด์ที่ 3 การสร้างคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย จากนี้ไปคนจะรู้สึกว่าต้องมีเนื้อหาสาระมีคุณภาพ เพื่อทำให้เกิดการกดไลค์และแชร์สู่สาธารณชน และเมกะเทรนด์ที่ 4 โลกไร้เวลาไพรม์ไทม์อีกต่อไป แต่เป็นไพรม์ใครไพรม์มันผู้บริโภคเลือกเวลารับสื่อดูหนังด้วยตัวเอง

ดังนั้น บนสภาพเศรษฐกิจปี 2560  ที่สัญญาณการฟื้นตัวยังไม่ชัด สินค้ายังเผชิญกับความท้าทายสร้างยอดขาย บนเส้นทางการแข่งขันสูง หากผู้ประกอบการกำหนดกลยุทธ์รับ 7 เมกะเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นได้ เชื่อแน่ว่ายอดขายและกำไรคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางหรือทะลุเป้าหมายได้แน่ ตามคำกล่าวที่ว่า การเริ่มต้นที่ดีก็เท่ากับสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง