posttoday

เจาะความต้องการไอทีเอเชีย หวังยกระดับชีวิต-ทำงาน

26 ธันวาคม 2559

ไมโครซอฟท์ ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมออนไลน์ของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชียในยุคโมบายเฟิร์ส คลาวด์เฟิร์ส พบว่าคนรุ่นใหม่ มีความเข้าใจอันดีและตระหนักถึงความเสี่ยงที่มากับโลกไซเบอร์

โดย...รัชนีย์ ศรีวัฒนชัย

ไมโครซอฟท์ ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมออนไลน์ของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชียในยุคโมบายเฟิร์ส คลาวด์เฟิร์ส พบว่าคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้ มีความเข้าใจอันดีและตระหนักถึงความเสี่ยงที่มากับโลกไซเบอร์ เพราะการใช้อุปกรณ์และบริการด้านดิจิทัลนั้นก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างไม่เคยมีมาก่อน

กุนเทอร์ ไวเมอร์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจวินโดวส์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท ไมโครซอฟท์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า จากการสำรวจออนไลน์โพลจัดทำขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย. 2558 ในกลุ่มมิลเลนเนียลที่มีสัญชาติเอเชียอายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งทำงานแล้วและยังศึกษาอยู่จาก 14 ประเทศ ที่มีสำนักงานไมโครซอฟท์ จัดตั้งอยู่ได้แก่ ไทย ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เป็นต้น ในจำนวนนี้มีเยาวชนกว่า 1,100 ล้านคน คิดเป็นกว่า 60% ของประชากรเยาวชนทั่วโลก

ทั้งนี้ คนกลุ่มดังกล่าวเป็นผู้กำหนดวิธีการทำงานของแรงงานในอนาคต รวมถึงไลฟ์สไตล์ในโลกดิจิทัล พบว่า อัตราการใช้สมาร์ทโฟนอย่างน้อย 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังเลือกใช้โน้ตบุ๊ก หรือแล็ปท็อป เนื่องจากมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าเดสก์ท็อป พีซี และแท็บเล็ต นอกจากนี้กว่า 40% ยังเป็นเจ้าของเครื่องเกมอย่างน้อย 1 เครื่อง ขณะที่ความนิยมอุปกรณ์ดิจิทัลไฮเทคชนิด สวมใส่มีเพียง 17% โดยการเลือกอุปกรณ์ด้วยตัวเอง มากกว่า 1 ใน 3 ต้องการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนมากที่สุดเป็นอันดับแรก ตามด้วยแล็ปท็อป 19.3% และแท็บเล็ต 13.3%

สำหรับความต้องการกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชียมีด้วยกัน 6 ด้าน ได้แก่ 1.กลุ่มมิลเลนเนียลต้องการความคล่องตัวสูง เลือกใช้โน้ตบุ๊ก หรือแล็ปท็อป เนื่องจากมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพการทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนมากกว่าเดสก์ท็อป พีซี

2.ต้องการใช้เทคโนโลยีอย่างคล่อง แคล่ว ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก พวกเขาอยากให้ทุกอุปกรณ์ของเขาสามารถใช้จอแบบสัมผัสได้ 3.พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ เพื่อให้สามารถเข้าถึงไฟล์ต่างๆ จากทุกอุปกรณ์และทุกที่ ทุกเวลา

ขณะที่ 4.กลุ่มมิลเลนเนียล ต้องการโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยมากขึ้น ส่วนใหญ่ไม่ชอบหากขาดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในวิถีชีวิตดิจิทัลของพวกเขา ในความเป็นจริงกว่า 70% ของคนกลุ่มนี้ยินดีจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว เทคโนโลยีที่อยากให้เกิดขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า คือ การผสานอุปกรณ์ต่างๆ เข้ากับเทคโนโลยีไบโอเมตริกส์ อาทิ การสแกนม่านตา เป็นต้น 5.ต้องการความง่ายในโลกเทคโนโลยีที่ซับซ้อน เพราะ 10 คนรู้สึกว่าความท้าทายถัดจากเรื่องของความปลอดภัยในโลกดิจิทัล คือ การที่ต้องจำรหัสผ่านจำนวนมาก

ตามด้วย 6.กลุ่มมิลเลนเนียลเชื่อว่าเทคโนโลยีจะทำให้อนาคตพวกเขาดีกว่าเดิม ผลการศึกษาพบว่า 70% ของเยาวชนกลุ่มนี้เชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสังคมได้ อาทิ ความไม่เท่าเทียมกัน และพัฒนาการของอุปกรณ์ดิจิทัลที่อยากให้เกิดขึ้นจริงภายในปี 2563 เช่น การแสดงผลด้วยภาพแบบโฮโลกราฟฟิก ผู้ช่วยส่วนตัวเสมือน การสั่งงานอุปกรณ์โดยตรงผ่านความคิด อย่างไรก็ดี ด้วยวิถีชีวิตแบบดิจิทัลในยุคโมบายเฟิร์ส คลาวด์เฟิร์ส ไมโครซอฟท์ได้สร้างพันธกิจยุคของพีซีที่ทำ ได้มากกว่า ช่วยให้ผู้ใช้บรรลุศักยภาพของตนเอง ก่อนหน้านี้เปิดตัววินโดวส์ 10 เมื่อเดือน ก.ค. 2558 โดยไมโครซอฟท์ได้พัฒนาแพล็ตฟอร์มให้ทำงานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ปัจจุบันอุปกรณ์มากกว่า 110 ล้านเครื่อง ที่ใช้วินโดวส์ 10 รวมทั้ง 12 ล้านเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะสำหรับสำนักงาน

เร็วๆ นี้ ไมโครซอฟท์กำลังมีวินโดวส์เวอร์ชั่นใหม่ สามารถตอบโจทย์จินตนาการของกลุ่มลูกค้าส่วนบุคคลและธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เครื่องคอมพิวเตอร์พีซีมีประสิทธิภาพทำงานได้มากขึ้น