posttoday

10 อันดับธุรกิจเด่น-ร่วง ปี'60

23 ธันวาคม 2559

หอการค้าไทยเผยธุรกิจการแพทย์ ความงามยังครองอันดับ 1 ธุรกิจเด่นต่อเนื่องปีที่ 6 ตามเมกะเทรนด์ทั้งดิจิทัล-สังคมเมือง-สังคมผู้สูงอายุ

หอการค้าไทยเผยธุรกิจการแพทย์ ความงามยังครองอันดับ 1 ธุรกิจเด่นต่อเนื่องปีที่ 6 ตามเมกะเทรนด์ทั้งดิจิทัล-สังคมเมือง-สังคมผู้สูงอายุ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึง 10 ธุรกิจเด่น-ร่วงปี 2560 ว่า ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามยังคงติดอันดับหนึ่งธุรกิจเด่นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 และคาดว่าจะคงต่อไปอีก 3-5 ปี รองลงมาคือ ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง

ขณะที่ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการทางการเงิน (ฟินเทค-ออนไลน์แบงก์กิ้ง) ธุรกิจห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์นเทรด) ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจ ออร์แกไนซ์ ธุรกิจซ่อมอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชี

"ธุรกิจเด่นในปีหน้ามองว่า เป็นไปตามเมกะเทรนด์ของโลกที่มี 4 ตัวคือ ดิจิทัลที่ทำให้กลุ่มอี-คอมเมิร์ซ และบริการทางการเงินแบบฟินเทคมาแรง การเป็นสังคมเมืองมากขึ้นที่ทำให้พฤติกรรมของ ผู้บริโภคเปลี่ยนไป การซื้อสินค้าในห้างโมเดิร์นเทรดมีมากขึ้น การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้ ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ การออมเงินและการประกันโต และสุดท้ายคือ กรีน ที่กระแสรักสุขภาพจะเด่นชัดขึ้น" นาย ธนวรรธน์ กล่าว

นอกจากนี้ นโยบายของรัฐบาลเองก็มีผลต่อธุรกิจเด่นในปีหน้าเช่นกัน ทั้งนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ไทยแลนด์ 4.0 ที่ช่วย ส่งเสริมและเติมเต็มในหลายๆ ธุรกิจเช่น อี-คอมเมิร์ซ การท่องเที่ยว บริการการเงิน ขณะที่นโยบายส่งเสริมการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทั้งในระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน และการอัดฉีดงบกลางลงสู่ 18 กลุ่มจังหวัด ก็จะมีผลต่อการลงทุน การค้าชายแดน ซึ่งดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้างและรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจออร์แกไนซ์ และธุรกิจให้คำปรึกษาทางกฎหมายและบัญชีในการทำการค้ากับต่างประเทศ

ทั้งนี้ จากข้อมูล พบด้วยว่า ธุรกิจเด่นปี 2559 ที่ไม่เคยติดดับ 1 ใน 10 มาก่อน เช่น ธุรกิจจัดการตลาดนัด ผลิตภัณฑ์ผู้สูงอายุ สมุนไพรธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น

สำหรับ 10 อันดับแรกธุรกิจดาวร่วงในปี 2560 ได้แก่ ธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจหัตถกรรม ธุรกิจนิตยสาร ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ธุรกิจร้านเช่าวิดีโอและซีดี สิ่งทอผ้าผืนที่ไม่เน้นฝีมือ ธุรกิจจัดทำโปสเตอร์ ธุรกิจโรงไม้ ธุรกิจตัดและซ่อมรองเท้า ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ธุรกิจด้อยจะเป็นกลุ่มที่ไม่มีการพัฒนา หรือเป็น กลุ่มที่ทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มฟอกย้อม หัตถกรรม รองเท้าและสิ่งทอที่ตัดเย็บทั่วไป ซึ่งกลุ่มนี้จะถูกสินค้าจากจีนที่มีต้นทุนต่ำกว่าเข้ามาตีตลาด ส่วนธุรกิจนิตยสารและหนังสือมองว่า ภายใน 2 ปีจากนี้จะเป็นช่วงที่เหนื่อยมากของธุรกิจกลุ่มนี้ โดยเฉพาะนิตยสารที่มีความเฉพาะอาจต้องปรับตัวหนัก เนื่องจากพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ที่หันไปอ่านผ่านอี-บุ๊ก และอี-แมกกาซีนมากขึ้น ซึ่งต้องเป็นกลุ่มที่เข้าถึงตลาดทั่วไป (แมส) หรือมีฐานใหญ่ในต่างจังหวัดที่ยังเข้าไปถึงเทคโนโลยีมากนักจึงจะอยู่ได้

อย่างไรก็ดี มองว่า ในปี 2560 เป็นปีแห่งการปรับตัว คือ ปรับโครงสร้าง ซึ่งจะเห็นว่าทุกประเทศหันกลับมาใช้และสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศตัวเองมากขึ้น ทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน รวมทั้งไทยด้วย จะเห็นว่ามีการ ปรับโครงสร้างการค้าภายในภูมิภาคเพิ่ม ขึ้นด้วย