posttoday

รมช.พาณิชย์เข้าทำงานวันแรกเตรียมเข็นเอสเอ็มอีไทยโกอินเตอร์

21 ธันวาคม 2559

“สนธิรัตน์” รมช.พาณิชย์ เข้ากระทรวงพาณิชย์วันแรก เตรียมเข็นเอสเอ็มอีไทยโกอินเตอร์รับนโยบายประเทศไทย 4.0

“สนธิรัตน์” รมช.พาณิชย์  เข้ากระทรวงพาณิชย์วันแรก เตรียมเข็นเอสเอ็มอีไทยโกอินเตอร์รับนโยบายประเทศไทย 4.0

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังรับตำแหน่งใหม่และเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง เมื่อเวลา 09.09 น. ว่า นโยบายสำคัญที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาดำเนินงานนั้น คือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า ซึ่งรัฐบาลอยากเห็นปี 2560 เป็นปีของการทำงานเป็นรูปธรรมต้องเห็นผลงานชัดเจน ภยกตัวอย่างงานที่จะต้องดำเนินการให้เห็นชัดในปีหน้านั้น เช่น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันกับต่างประเทศ ตลอดจนส่งเสริมการค้าทั้งภายในและต่างประเทศ

นอกจากนี้ เนื่องจากตนมีความถนัดในสายการงานอุตสาหกรรมมาก่อน มีความรู้ความสามารถประสบการณ์งานจากกระทรวงอุตสาหกรรมและมีความถนัดเกี่ยวกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) จึงมั่นใจว่าจะสามารถต่อยอดงานของกระทรวงพาณิชย์ได้ พัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันในระดับต่างประเทศและสอดคล้องไปกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาขีดความสามารถการ้าภายในประเทศให้เข้มแข็งและวางรากฐานเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

“ช่วงเวลาที่ผ่านมาเศรษฐกิจเราไม่ได้แย่ และดีกว่าประเทศอื่นด้วยซ้ำไป เรามีขีดความสามารถทางการแข่งขัน แต่ที่เห็นว่าค่าครองชีพไม่ดีมันแพงแต่อัตราเงินเฟ้อเราก็ยังต่ำ สถานการณ์ที่ผ่านมามันจึงเป็นภาวะของผลกระทบทั้งโลก เห็นได้จากสหรัฐฯ เองก็ออกมากีดกันทางการค้าการลงทุนเพราะเศรษฐกิจไม่ดี โดยสรุปแล้วภาพรวมประเทศเราก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เราอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น แต่รัฐบาลนี้ไม่ได้เน้นเติบโตหวือหวา แต่เน้นเติบโตอย่างมั่นคง ยั่งยืน ซึ่งที่ผ่านมาเราก็อยู่ในช่วงของการวางรากฐานเศรษฐกิจ”

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า สิ่งที่ภาครัฐฯ ดำเนินการวางรากฐานเศรษฐกิจในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมอนาคตหรือ นิว เอส-เคิร์ฟ (New S-curve) การวางโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณูปโภค อินเตอร์เน็ตหมู่บ้าน และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รวมไปถึงการเร่งผลักดันให้เกิดระเบียงเศรษฐกิจ (อีอีซี) ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาและได้รับการยอมรับในระดับสากลนั้น ถือว่าเป็นนโยบายที่เดินมาถูกทางแล้ว โดยสิ่งเหล่านี้เป็นการปรับฐานเศรษฐกิจไทยครั้งใหญ่และจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคตของไทยดีขึ้นอย่างยั่งยืน