ปตท.จัดทัพตั้งพีทีทีโออาร์แยกค้าน้ำมัน

ปตท.ปรับโครงสร้างธุรกิจ ตั้งพีทีทีโออาร์ คุมธุรกิจน้ำมัน-ค้าปลีก หวังขยายลงทุนต่างประเทศ

นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธาน เจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท ปตท. (บอร์ด ปตท.) มีมติเห็นชอบการปรับโครงสร้างธุรกิจ ปตท. เรื่องการโอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมัน ธุรกิจก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) รวมถึงสินทรัพย์และหนี้สิน ตลอดจนหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้แก่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (พีทีทีโออาร์) ที่ตั้งขึ้นใหม่ โดยการ แยกบริษัทครั้งนี้จะถือเป็นบริษัทแกน หรือ แฟล็กชิป คอมพานี ของกลุ่ม ปตท. ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก

สำหรับขั้นตอนการโอนสินทรัพย์ จะพิจารณาสินทรัพย์ที่ ปตท.ดำเนินการเองเพื่อแข่งขันทางธุรกิจให้ไปอยู่ภายใต้พีทีทีโออาร์ เช่น สถานีบริการน้ำมัน คลังน้ำมัน คลังแอลพีจีเดิมที่เกิดจากนโยบาย ปตท. และจะไม่โอนสินทรัพย์ที่เกิดจากนโยบายรัฐบาล เพื่อไม่ให้ซารอยกับกรณีท่อก๊าซ เช่น ท่าเรือ ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาล ส่วนพนักงานที่มีประมาณ 1,500 คน ในธุรกิจน้ำมันจะไม่ได้รับผลกระทบจากพนักงานทั้งหมด 4,000 คน เพราะจะมีการจัดสรรเนื้องานที่เหมาะสมแก่ทุกคน

ด้านกระบวนการปรับโครงสร้างธุรกิจหลังจากนี้ ปตท.จะเสนอการปรับโครงสร้างดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญของ ปตท.ในเดือน เม.ย. 2560 หลังจากนั้นจะมีการพิจารณาอนุมัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดย ปตท.มีเป้าหมายจะถือหุ้น 45-50% และใช้เวลาระยะหนึ่งในการตั้งบริษัทที่สมบูรณ์ ก่อนมีแผนการเสนอขายหุ้นใหม่ให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) และการนำพีทีทีโออาร์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างธุรกิจ ปตท.ในครั้งนี้เพื่อแยกหน้าที่ในการดำเนินงาน สร้างความชัดเจนและโปร่งใสกับการดำเนินธุรกิจในสายตาสาธารณชน โดยราคาน้ำมันจะไม่เปลี่ยนแปลง ยังคงเป็นไปตามกลไกปัจจุบัน ซึ่งบริษัทไม่ได้เน้นสร้างกำไรต่อธุรกิจน้ำมันในประเทศ เนื่องจากมีกระทรวงพลังงานกำกับดูแล แต่จะช่วยให้ธุรกิจน้ำมันมีความคล่องตัวในการออกไปลงทุนต่างประเทศ

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับข้อมูลเบื้องต้นสินทรัพย์ ณ เดือน ก.ย. 2559 ที่ ปตท.จะโอนไปให้พีทีทีโออาร์ตามที่ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ มีสินทรัพย์รวม 67,776 ล้านบาท ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตจาก ปัจจัยต่างๆ ได้