จากัวร์ฯสนรถอีวี

จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ตั้งอินช์เคปเป็นผู้แทนรายใหม่ในไทย สบช่องภาษี-ค่าเงินลง เปิดตัวจากัวร์เอฟ-เพซลุยตลาด

นายโรบิน โคลแกน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จากัวร์ แลนด์โรเวอร์ เอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า สำหรับนโยบายการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ของรัฐบาล บริษัทมีความพร้อมที่จะนำเข้ามาทำตลาดในไทย ซึ่งตามความเหมาะสมตามเงื่อนไขของรัฐบาล โดยมีรถยนต์ไฟฟ้าในรุ่นจากัวร์ ไอ-เพซ

ทั้งนี้ ตลาดรถยนต์ระดับพรีเมียมในไทยถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง ซึ่งบริษัทมองว่าเหมาะที่จะใช้ไทยเป็นฐานสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคเพื่อตอบสนองความต้องการ

นอกจากนี้ สำหรับประเทศที่มีอัตราการเติบโตในทวีปเอเชียแปซิฟิกมี 4 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย เกาหลี จีน และไทย ซึ่งหากเมื่อเทียบไทยกับสหรัฐที่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่สูง

“การรวมตัวของกลุ่มประชาเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่มีจำนวนประชากรกว่า 600 ล้านคน ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจ จึงได้มีการปรับโครงสร้างบริษัทและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม”
นายโคลแกน กล่าว

สำหรับ 3 ไตรมาสของปี 2559 ยอดขายจากัวร์ แลนด์โรเวอร์ ทั่วโลกมีอัตราเติบโต 24% แบ่งเป็น จากัวร์ 25% และแลนด์โรเวอร์ 75% ขณะไทยอยู่ที่ในระดับเดียวกัน ซึ่งคาดว่าภายหลังการเปิดตัวจากัวร์ เอฟ-เพซ ที่อยู่ในกลุ่มรถยนต์อเนกประสงค์ (ครอสโอเวอร์) จะสามารถดันให้สัดส่วนทั่วโลกและในไทยอยู่ที่ 50% ต่อ 50%

ขณะที่ระดับราคารถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ลดลงราว 5-10% จากสิทธิประโยชน์ของโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ลดลงจึงส่งผลดีต่อราคา

นอกจากนั้น ล่าสุดบริษัทได้แต่งตั้งบริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) เป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และแลนด์โรเวอร์ อย่างเป็นทางการในไทยรายใหม่ พร้อมทั้งเปิดตัวจากัวร์ เอฟ-เพซ รถยนต์อเนกประสงค์ (ครอสโอเวอร์) ราคาเริ่มอยู่ที่ 4.69-5.99 ล้านบาท พร้อมการจัดรายการส่งเสริมการขาย (โปรโมชั่น) ขยายระยะเวลารับประกันแบบวอรี่ฟรี 5 ปี จากปกติ 3 ปี ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 33 (มอเตอร์ เอ็กซ์โป)

นายชาญชัย มหันตคุณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้แทนจำหน่ายรถยนต์จากัวร์และ แลนด์โรเวอร์ในไทย กล่าวว่า บริษัทใช้ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท ตั้งบริษัทในไทย โดย อินช์เคป เป็นผู้จำหน่ายรถยนต์ระดับพรีเมียมทั่วโลก 27 ประเทศ รวมกว่า 30 แบรนด์ ในปี 2558 มีรายได้รวมราว 3 แสนล้านบาท

ภาพเอเอฟพี