posttoday

สเวนเซ่นส์ตั้งเป้า5ปีขึ้นชั้นแบรนด์ระดับโลก

23 สิงหาคม 2553

สเวนเซ่นส์ ปูพรมขยายสาขาต่างแดนตั้งเป้า 5 ปี 15 ประเทศ 300 สาขา ขึ้นแท่น โกลบอล แบรนด์ ตั้งเป้าโตปีละ 5%

สเวนเซ่นส์ ปูพรมขยายสาขาต่างแดนตั้งเป้า 5 ปี 15 ประเทศ 300 สาขา ขึ้นแท่น โกลบอล แบรนด์ ตั้งเป้าโตปีละ 5%

นายปีเตอร์ คิง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สเวนเซ่นส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า นับจากปีหน้าเป็นต้นไปบริษัทตั้งเป้าที่จะขยายแฟรนไชส์ร้านไฮศกรีมสเวนเซ่นส์ในต่างประเทศอย่างน้อย 2 ประเทศต่อปีตลอด 5 ปีข้างหน้า ด้วยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายหลักหรือมาสเตอร์แฟรนไชส์ จากปัจจุบันบริษัทขยายแฟรนไชส์แล้ว 5 ประเทศ ได้แก่ ซาอุดิอาราเบีย กัมพูชา โดยประเทศลาว อินเดีย เวียดนาม เป็นประเทศที่ขยายใหม่ในปีนี้ ดังนั้นภายในปี 2558 บริษัทจะขยายสาขาได้อย่างน้อย 15 ประเทศ และจะทำให้แบรนด์สเวนเซ่นส์ เป็นแบรนด์ไฮศกรีมระดับโลก หรือโกลบอล แบรนด์ได้

 

สเวนเซ่นส์ตั้งเป้า5ปีขึ้นชั้นแบรนด์ระดับโลก

ทั้งนี้ ประเทศที่บริษัทจะขยายแฟรนไชส์เข้าไปจะเน้นประเทศที่มีลักษณะประชากร พฤติกรรมผู้บริโภค รายได้ของประชากรคล้ายคลึงกับประเทศไทย เช่น ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน ภูมิเอเชีย และตะวันออกจาก ซึ่งบริษัทได้รับสิทธิที่จะขยายแฟรนไชส์ได้ 38 ประเทศทั่วโลก จากบริษัทแม่ในสหรัฐอเมริกา

สำหรับแผนการขยายสาขาแฟรนไชส์ในต่างประเทศตลอด 5 ปีข้างหน้า ประเทศอินเดียในปีนี้จะเปิดทั้งสิ้น 6 สาขา โดยบริษัทให้สิทธิเปิดสาขาทั้งหมด 80 สาขา เวียดนามมี 1 สาขา ให้สิทธิเปิดตัว 25 สาขา ลาวปัจจุบันมี 1 สาขาและจะเปิดอีก 1 สาขา เนื่องจากเป็นประเทศขนาดเล็ก ซาอุดิอาราเบียปัจจุบันมี 12 สาขา จะเปิดอีก 3 สาขา และกัมพูชาปัจจุบันมี 4 สาขาจะเปิดอีก 2 สาขา

คาดว่าเมื่อครบ 5 ปี บริษัทจะมีสาขาในต่างประเทศเป็นสัดส่วน 50% ของสาขาทั้งหมด หรือประมาณ 300 สาขา หมายความว่าภายใน 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีสาขาในประเทศไทยราว 300 สาขาเช่นกัน

“ทางด้านรายได้ของบริษัทตลอด 5 ปีข้างหน้า บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้ที่ 5% ตลอด 5 ปี เนื่องจากเป็นอัตราการเติบโตจากฐานรายได้ที่ใหญ่การเติบโตในตัวเลขดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ส่วนการเติบโตทางด้านรายได้ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตถึง 9% มากกว่าเป้าที่ตั้งไว้เมื่อต้นปีที่ 5% เนื่องจากช่วงแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก แต่หลังจากเจอปัญหาการเมืองจนถึงขณะนี้บริษัทมีอัตราการเติบโตต่อเดือนเป็นตัวเลขหลักเดียวเท่านั้น” นายปีเตอร์ กล่าวเพิ่มเติม     

นายปีเตอร์ เผยต่อว่า การขยายแฟรนไชส์ในต่างประเทศ บริษัทใช้วิธีการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยไปยังประเทศต่างๆ ยกเว้นประเทศอินเดียที่บริษัทร่วมทุนขยายโรงงานผลิตไอศกรีม เนื่องจากเป็นประเทศใหญ่และต้องการสินค้าเป็นจำนวนมาก ไม่คุ้มค่ากับการส่ง ด้านกำลังการผลิตสินค้าในปัจจุบันของบริษัทในโรงงานที่เขาใหญ่ยังรอบรับความต้องการได้ตลอด 5 ปีข้างหน้า โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม

ส่วนแผนการดำเนินงานในประเทศปีนี้บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายสาขาให้ได้ 223 – 224 สาขา จากปัจจุบัน 213 – 214 สาขา ดังนั้นในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะขยายสาขาอีก 10 สาขา พร้อมกันนี้บริษัทยังจะจัดโปรโมชั่น แคมเปญกระตุ้นยอดขายตลอดทั้งปี โดยเน้นการจัดแคมเปญตามเทศกาลต่างๆ อย่างล่าสุด บริษัทได้ใช้กลยุทธ์ เทรดดิชั่น มาร์เก็ตติ้ง ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ด้วยการจำหน่ายไฮศกรีมเค้ก และขนมไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้บริษัทได้วางจำหน่ายเป็นครั้งปีที่ 2 หลังจากได้รับการตอบรับที่ดีในปีที่ผ่านมา คาดว่าตลอดเทศกาล หรือ 1 เดือนครึ่งบริษัทจะขายขนมไหว้พระจันทร์ได้ 2 แสนชิ้น