posttoday

"บิ๊กตู่"ลั่นใช้กม.จัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญ

30 กันยายน 2559

นายกฯสั่งใช้กฎหมายจริงจังแก้ปัญหา"ทัวร์ศูนย์เหรียญ"เผย5มาตรการที่ต้องเร่งทำ รับอาจกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงแรกเพื่อแลกความยั่งยืนในอนาคต

นายกฯสั่งใช้กฎหมายจริงจังแก้ปัญหา"ทัวร์ศูนย์เหรียญ"เผย5มาตรการที่ต้องเร่งทำ รับอาจกระทบต่อจำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงแรกเพื่อแลกความยั่งยืนในอนาคต 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติว่า รัฐบาลได้เร่งแก้ปัญหา “ทัวร์ศูนย์เหรียญ”เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ด้วยการบังคับใช้ทุกกฎหมายของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น  พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ.2551, ระเบียบคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ว่าด้วยมาตรฐานการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมาตรฐานการปฏิบัติหน้าที่ของมัคคุเทศก์ฯ พ.ศ.2556 เป็นต้น รวมทั้ง บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งด้านความมั่นคง ด้านกฎหมาย ด้านการต่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ทุกมิติ โดยจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมการท่องเที่ยว, กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว, สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว,สมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย – จีน  เพื่อให้การบริหารจัดการในการแก้ไขปัญหา การประกอบธุรกิจนำเที่ยวตลาดจีน ซึ่งเป็นปัญหา “ทัวร์ศูนย์เหรียญ” มากที่สุด ในปัจจุบันให้ได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุดแนวทางแก้ไข ก็ได้แก่

(1) การกำหนด “ราคากลาง” ขายทัวร์ที่เป็นธรรมกับนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งมีการกำหนดต้นทุนที่ชัดเจน ตามกลไกตลาด  เป็นการ “ชั่วคราว” ระหว่างที่รอกฎหมายลูก ซึ่งจะกำหนด “ราคาขั้นต่ำ” ของทัวร์ภายในปลายปีนี้
(2) การควบคุมการให้บริการนักท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพอาทิเช่น การกำหนดแบบรถทัวร์, คุณสมบัติไกด์ทัวร์, ตลอดจนรูปแบบของร้านค้าที่บริษัททัวร์นำนักท่องเที่ยวไปซื้อของได้
(3) การจัดทำโมเดลเส้นทางท่องเที่ยวมาตรฐาน โดยระบุสิ่งที่ทำได้และสิ่งที่ห้าม
(4) มีการตรวจสอบทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ โดยเพิ่มเติมการตรวจสอบใน “เชิงลึก”โดยเฉพาะที่มีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทลูกข่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งในเรื่องการเสียภาษีและการฟอกเงิน เป็นต้น
(5) มาตรการในระดับยุทธศาสตร์ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับประเทศ “ต้นทาง” โดยได้พูดคุยสร้างความเข้าใจ เพื่อแสวงหาความร่วมมือกับองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน (CNTA) ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

ดังนั้น นักธุรกิจของเราก็คงจะต้องร่วมมือกันได้มีการจัดทำบันทึกลงนามความเข้าใจ (MOU) เพื่อการทำงาน “เชิงรุก”ร่วมกันในอนาคตต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผลจากการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังจะมีผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวระยะสั้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน แต่ทั้งนี้ก็เพื่อจะเป็นการรักษาภาพลักษณ์และคุณภาพของการท่องเที่ยวของไทย ที่สำคัญก็คือ ได้มีการจัดระเบียบทางสังคม เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ก็จะเป็นการส่งเสริมให้การท่องเที่ยวของไทยนั้นมีความยั่งยืน  เน้นคุณภาพ มากกว่าปริมาณ.