posttoday

BDMS ซื้อ'ปาร์คนายเลิศ'ผุดศูนย์สุขภาพใหญ่สุดในเอเชีย

29 กันยายน 2559

กลุ่มรพ.กรุงเทพดันไทยขึ้นเมดิคัลฮับทุ่ม 10,800 ล้านบาทซื้อโครงการ ปาร์คนายเลิศ ผุดศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย ด้าน"เล็ก ปาร์คนายเลิศ"ขอบคุณพนักงาน รับจำต้องปิดกิจการหลังสู้เต็มที่แล้ว

กลุ่มรพ.กรุงเทพดันไทยขึ้นเมดิคัลฮับทุ่ม 10,800 ล้านบาทซื้อโครงการ ปาร์คนายเลิศ ผุดศูนย์สุขภาพครบวงจรแห่งแรกในเอเชีย " เล็ก ปาร์คนายเลิศ" ขอบคุณพนักงาน รับจำต้องปิดกิจการหลังสู้เต็มที่แล้ว

นางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ(BDMS)  บริษัทผู้ประกอบการธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของประเทศ แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 ก.ย.2559 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทและบริษัทย่อยเข้าซื้อที่ดินบริเวณ โครงการปาร์คนายเลิศ ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 2 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จำนวนเนื้อที่รวมประมาณ 15 ไร่ และสิ่งปลูกสร้างซึ่งประกอบด้วย อาคาคโรงแรมสวิส โฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ อาคาร Promenade และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่ตั้งอยู่บนที่ดินดังกล่าว จากนางสัณหพิศ สมบัติศิริ และนางพิไลพรรณ สมบัติศิริ เป็นจำนวนเงินประมาณ 10,800 ล้านบาท ซึ่งได้ชำระไปแล้ว 1,080 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2559 ส่วนที่เหลือบริษัทจะชำระในวันรับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯดังกล่าวประมาณไตรมาส 2 ของปี 2560

สำหรับ เงินที่จะใช้ในการซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้ มาจากกระแสเงินสดภายในบริษัท การกู้ยืมจากสถาบันการเงิน การออกหุ้นกู้ หรือ หุ้นกู้แปลงสภาพ คาดว่าการกู้ยืมหรือการออกหุ้นกู้จะไม่มีเงื่อนไขที่มีผลกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัท

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนนำพื้นที่ดังกล่าวไปพัฒนาโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic  โดยกำหนดงบประมาณลงทุนและปรับปรุงทรัพย์สินเพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าวประมาณ 2,000 ล้านบาท  รวมเป็นมูลค่ารายการทั้งสิ้นประมาณ 12,800 ล้านบาท

สำหรับ รายละเอียดของทรัพยสินที่จะซื้อ ประกอบด้วย 1.ที่ดินบริเวณโครงการ ปาร์คนายเลิศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ และอาคารสำนักงาน Promenade

2.อาคารสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดบนที่ดิน ประกอบด้วย อาคารโรงแรมสูง 6 ชั้น พื้นที่ประมาณ 40,300 ตารางเมตร บางส่วนของอาคารโรงแรมตั้งอยู่บนที่ดินที่ไม่ได้จะทำการซื้อขาย ซึ่งจะต้องส่งมอบที่ดินคืนให้แก่เจ้าของกรรมสิทธิ์ภายในระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันโอนกรรมสิทธิ์ โดยอาคารส่วนที่อยู่บนที่ดินที่จะทำการซื้อขาย มีพื้นที่ประมาณ 28,600 ตารางเมตร อาคารสำนักงาน Promenade สูง 12 ชั้น พื้นที่ประมาณ 31,000 ตารางเมตร และ อาคารชั้นเดียวซึ่งใช้เป็นห้องอาหารพนักงาน พื้นที่ประมาณ 400 ตารางเมตร และ ทรัพย์สินซึ่งเป็นส่วนควบของอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ระบบสาธารณูปโภค งานระบบ ทรัพย์สินอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

รายการครั้งนี้ ผู้จะขายไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท โดยการเข้าทำรายการดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งทรัพย์สินประเภทที่ 2 คือ เป็นรายการที่มีมูลค่าเท่ากับ 15% หรือ สูงกว่า แต่ต่ำกว่า 50% ตามประกาศรายการได้มา หรือ จำหน่ายไป ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทจ.20/2551 และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.2547 ดังนั้น บริษัทจึงมีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศการทำรายการของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติให้บริษัทจัดตั้งบริษัทย่อยซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% ภายใต้ชื่อ บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด("BDMS Wellness Clinic Company Limited")โดยมีทุนจดทะเบียน 6,400 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อและรับโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อดำเนินโครงการ BDMS Wellness Clinic  มุ่งดูแลให้ผู้ใช้บริการมีสุขภาพที่แข็งแรงในองค์รวมทั้งด้านร่างกายและจิตใจรวมถึงมีอายุยืนยาว เน้นไปที่บริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ บริการทางด้านสุขภาพระบบประสาทและสมอง ขยายกิจการและเพิ่มขีดความสามารถของคลินิกต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

บริษัท มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีและประสบความสำเร็จ เพราะ แนวคิดด้านการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นมากทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในด้านเวชศาสตร์ป้องกัน และเวชศาสตร์ชะลอวัย ซึ่งพบเห็นได้จากการตัวของกระแสรักษ์สุขภาพ ทั้งในด้านโภชนาการ และอาหารเสริม การออกกำลังกาย และการใช้บริการทางการแพทย์เพื่อป้องกันก่อนที่จะเจ็บป่วย ในส่วนของโรงพยาบาลในเครือของบริษัทก็พบว่ามีผู้มารับบริการทางการแพทย์ในด้านที่เกี่ยวข้องกับกระแสดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในปัจจุบัน มีผู้ประกอบการเพียงน้อยรายในโลกที่เปิดให้บริการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ซึ่งสถาบันที่มีชื่อเสียงล้วนตั้งอยู่ในทวีปยุโรปหรือประเทศสหรัฐอเมริกา

โครงการนี้ของบริษัท จึงเป็นโครงการแรกในเอเชีย เชื่อว่าจะสามารถใช้ประโยชน์จากความพร้อมทางด้านการให้บริการทางการแพทย์ที่มีอยู่ทั้งจากบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการพัฒนาผลิภัณฑ์และการให้บริการทางการแพทย์และจากโครงการความร่วมมือกับสถาบันทางการแพทย์ชั้นนำต่างๆ ผสมผสานกับจุดเด่นของประเทศไทยในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและการให้บริการ เพื่อให้ธุรกิจศูนย์สุขภาพแบบครบวงจรนี้จะเป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว และมีศักยภาพในการแข่งขันทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ

นอกจากนี้ ที่ดินผืนดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียวที่โดดเด่นท่ามกลางศูนย์รวมความเจริญสมัยใหม่ในย่านธุรกิจของกรุงเทพ และมีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะนำมาพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร ทั้งในแง่ความร่มรื่นที่จะช่วยสร้างบรรยากาศอันผ่อนคลายให้แก่ผู้ที่เข้ามารับบริการและในแง่ของที่ตั้งซึ่งมีความสะดวกสบายแก่ผู้เข้ารับบริการและช่วยดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถ

BDMS ซื้อ'ปาร์คนายเลิศ'ผุดศูนย์สุขภาพใหญ่สุดในเอเชีย

ขณะที่ น.ส.ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงแรม ปาร์คนายเลิศ ได้เขียนประกาศด้วยลายมือใส่กระดาษแผ่นใหญ่ 2 แผ่น แจ้งข่าวการปิดกิจการโรงแรมให้กับพนักงานในโรงแรมได้รับทราบโดยติดไว้ที่บอร์ดภายในโรงแรมโดยมีใจความว่า

"ถึงพนักงานปาร์คนายเลิศทุกคน เล็ก ในฐานะกรรมการผู้จัดการและลูกหลานของปาร์คนายเลิศ ขอเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้น คณะกรรมการ ผู้บริหารและครอบครัว แจ้งข่าวสำคัญให้พนักงานทุกคนทราบ

หลายๆ คนทำงานที่นี่มาตั้งแต่วันแรกที่โรงแรมเปิด มีโอกาสได้รู้จัก ท่านผู้หญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ ซึ่งท่านเป็นผู้ก่อตั้งโรงแรมปาร์คนายเลิศแห่งนี้ หลายๆ คนทำงานในช่วงเวลาที่ คุณพิไลพรรณ สมบัติศิริ เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือบางคนเพิ่งเข้ามาทำงานในช่วงหลัง แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม ตลอด 36 ปี ของโรงแรมปาร์คนายเลิศ พวกเราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยกัน ทั้งเรื่อง ทุกข์และสุข เรื่องง่ายและยาก เราก็สามารถผ่านมาด้วยกันแล้วทุกครั้ง

แต่ทุกวันนี้สถานการณ์ธุรกิจโรงแรมมีการแข่งขันสูงมาก โรงแรมใหม่ๆ เปิดทั่วทุกมุมถนน คณะผู้บริหารทุกท่านต่างอดทนและทำงานหนัก เพื่อประคับประคองสถานการณ์ เพื่อความอยู่รอดของโรงแรมมาโดยตลอด แต่สุดท้าย ทุกอย่างย่อมต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

วันนี้ เล็ก จึงขอเป็นตัวแทนแจ้งให้พนักงานทุกคนทราบว่า เรามีความจำเป็นที่ต้องหยุดดำเนินกิจการโรงแรมปาร์ค นายเลิศ อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป ซึ่งผู้บริหารจะรับผิดชอบค่าชดเชยตามอัตราที่กฎหมายกำหนด พร้อมโบนัสอีก 1 เดือน สำหรับพนักงานที่มีสิทธิได้รับโบนัสตามกฎของบริษัท และสินน้ำใจจากครอบครัวอีกจำนวนหนึ่งให้กับพนักงาน

นอกจากนั้น เรายังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากบริษัท ACCOR ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าของ SWISSOTEL หรือ FRHI แล้ว ทางบริษัท ACCOR จะรับพิจารณาพนักงานที่สนใจเข้าสมัครงาน ณ โรงแรมในเครือ ACCOR ต่อไป หากมีคำถามหรือข้อสงสัย เล็ก ขอให้ติดต่อที่ฝ่ายบุคคลเพื่อข้อมูลที่ชัดเจนต่อไป

เล็ก ขอความร่วมมือจากทุกคนให้ช่วยกันทำงานในหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดจนวันสุดท้าย เล็ก ขอขอบคุณพนักงานทุกคน จากใจ ที่ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจมาโดยตลอด ถ้าไม่มีพวกเรา ปาร์คนายเลิศ จะไม่สามารถยืนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ และสุดท้ายเล็กขอฝากปาร์คนายเลิศให้อยู่ในหัวใจและความทรงจำที่ดีของทุกคนตลอดไป"