posttoday

ยาฮูอ่วมแฮ็กเกอร์เจาะระบบ

24 กันยายน 2559

ยาฮูเผยแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูลผู้ใช้กว่า 500 ล้านบัญชี ในปี 2014 คาดมีรัฐบาลต่างชาติหนุนหลัง

ยาฮูเผยแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูลผู้ใช้กว่า 500 ล้านบัญชี ในปี 2014 คาดมีรัฐบาลต่างชาติหนุนหลัง

บริษัท ยาฮู อิงค์ เปิดเผยว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์ขโมยข้อมูลผู้ใช้กว่า 500 ล้านบัญชี ออกไปจากระบบของบริษัทในปี 2014 ซึ่งเป็นเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยการเจาะระบบดังกล่าวมีแนวโน้มว่าได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลประเทศอื่น

ทั้งนี้ ข้อมูลที่โดนขโมยประกอบด้วย ชื่อผู้ใช้ อีเมล วันเกิด เบอร์โทรศัพท์ และพาสเวิร์ดที่มีการเข้ารหัสไว้ แต่จากการสอบสวนล่าสุดพบว่าข้อมูลบัตรเครดิตและบัญชีธนาคารยังไม่ถูกขโมยไป

อย่างไรก็ดี ยาฮู เสริมว่า แฮ็กเกอร์กลุ่มดังกล่าวไม่อยู่ในระบบของบริษัทแล้ว และบริษัทกำลังประสานงานกับเจ้าหน้าที่สืบสวนกลางสหรัฐ (เอฟบีไอ) เพื่อสืบสวนกรณีดังกล่าวต่อไป ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบวิธีที่กลุ่มแฮ็กเกอร์ใช้หรือรัฐบาลประเทศใดหนุนหลังการโจมตีดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ยาฮูเตือนผู้ใช้ให้ตรวจสอบบัญชีออนไลน์อื่นๆ และแนะนำให้เปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมด หากใช้รหัสชุดเดียวกับบัญชียาฮู รวมถึงเลี่ยงการคลิกลิงค์หรือดาวน์โหลดไฟล์จากอีเมลน่าสงสัย

ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ค. ยาฮูเริ่มสืบสวนกรณีแฮ็กเกอร์กลุ่มหนึ่ง อ้างว่าได้นำชื่อและพาสเวิร์ดของผู้ใช้ยาฮู 280 ล้านบัญชี ไปขายในตลาดมืด โดยในขณะนั้นเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐยังไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ขณะที่ยาฮูตัดสินใจขยายขอบเขตการสืบสวนออกไปและระบุว่าการเจาะระบบดังกล่าวเป็นการกระทำที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ขณะที่ในเดือน ส.ค. สื่อหลายแห่งรายงานว่า แฮ็กเกอร์รายหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า พีซ ประกาศขายข้อมูลผู้ใช้กว่า 200 ล้านบัญชี ที่ขโมยมานับตั้งแต่ปี 2012 ในเว็บไซต์ใต้ดินทางออนไลน์    

ด้าน เวอไรซอน บริษัทโทรคมนาคมสหรัฐที่ตกลงซื้อกิจการของยาฮู มูลค่า 4,800 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1.66 แสนล้านบาท) เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า บริษัททราบข่าวการขโมยข้อมูลผู้ใช้ยาฮูเมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ และกำลังประเมินผลกระทบของกรณีดังกล่าว

ขณะที่ โรเบิร์ต เพค นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินซันทรัสต์ โรบินสันฮัมฟรีย์ ในสหรัฐ เปิดเผยว่า การเจาะระบบดังกล่าว อาจไม่ส่งผลให้เวอไรซอนยกเลิกข้อตกลงการควบรวมกิจการกับยาฮู แต่เวอไรซอนอาจขอลดราคาการซื้อกิจการลงราว 100-200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3,469- 6,939 ล้านบาท) โดยประเมินจากจำนวนผู้ที่ยกเลิกการใช้งานยาฮู

ภาพ เอเอฟพี