posttoday

"บิ๊กตู่"เร่งสตาร์ทอัพสร้างเศรษฐกิจประเทศ

16 กันยายน 2559

นายกฯเร่งสตาร์ทอัพสร้างเศษฐกิจประเทศ ชูภูเก็ต ฮับสตาร์ทอัพท่องเที่ยว เผยผลสำรวจซีเอ็นเอ็นสตาร์ทอัพทั่วโลกสนใจเปิดบริษัทในเชียงใหม่มากที่สุด

นายกฯเร่งสตาร์ทอัพสร้างเศษฐกิจประเทศ ชูภูเก็ต ฮับสตาร์ทอัพท่องเที่ยว เผยผลสำรวจซีเอ็นเอ็นสตาร์ทอัพทั่วโลกสนใจเปิดบริษัทในเชียงใหม่มากที่สุด 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “สตาร์ทอัพไทยแลนด์ และดิจิทัล ไทยแลนด์ 2016” จัดโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ว่า รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการสร้างสตาร์ทอัพใหม่ ที่จะเป็นรถยนต์คันใหม่สำคัญต่อประเทศและเศรษฐกิจไทยอย่างมาก รวมถึงมีคณะกรรมการสานพลังประชารัฐที่จะร่วมวางนโยบาย ร่วมผลักดันการสร้างผู้ประกอบการใหม่

ขณะเดียวกันรัฐบาลมีนโยบายทำให้ ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพมีการขยายตัวทางธุรกิจ ให้เติบโตมากขึ้น รวมทั้งสามารถขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรม และรุกธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมกับเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรัฐบาลพร้อมผลักดันวางโครงสร้างต่างๆ ของประเทศ เชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือ จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบและภาคเอกชนมากที่สุด โดย นโยบายต่างๆ จะเป็นผลดีต่อภาคเอกชน ประชาชน รวมถึงนักธุรกิจต่างประเทศ และรัฐบาลจะไม่มีการทิ้งใครไว้ที่ด้านหลัง

ขณะเดียวกันอยากให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานในเครือ หาทางเชื่อมโยงบุคลากรไทยที่มีความสามารถ รวมถึงเอกชนไทยที่ไปจัดตั้งบริษัทในต่างประเทศ ให้เชื่อมโยงกับประเทศไทยและร่วมลงทะเบียนในทำเนียบของประเทศ เพื่อร่วมผลักดันประเทศไทย รัฐบาลเชื่อมั่นว่า จากนโยบายต่างๆ ที่ได้วางแผนไว้ จะทำให้ประเทศไทยสามารถหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ภายในอีก 20 ปีข้างหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า จ.ภูเก็ต ที่เป็นเมืองที่มีศักยภาพ สามารถเชื่อมโยงทั้งโลจิสติกส์ และไอซีทีได้อย่างดี รวมทั้งศักยภาพด้านการท่องเที่ยว เชื่อมั่น การจัดงานในครั้งนี้จะส่งเสริมสตาร์ทอัพ และยังดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย

นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า จ.ภูเก็ตมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางสตาร์ทอัพด้านการท่องเที่ยว อาหารและบริการเพื่อสุขภาพ รวมทั้งมีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในจังหวัดที่มีศักยภาพจำนวนมาก และมีนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลพร้อมผลักดันและส่งเสริมผู้ประกอบการสตาร์ทอัพอย่างเต็มที่

ขณะเดียวกันนโยบายของกระทรวงเตรียมงบลงทุนไว้ 1,200 ล้านบาท เพื่อร่วมมือกับมหาวิทยาลัย สร้างพื้นที่และระบบนิเวศ เพื่อสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในมหาวิทยาลัย โดยจะดำเนินการในมหาวิทยาลัยจำนวน 30 แห่ง และจะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 เชื่อมั่นว่าจากนี้ไปจะมีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพรายใหม่สู่ประเทศเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศ ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนสตาร์ทอัพในไทยจำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลของมี สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น และฟอร์บ มีการสำรวจพบว่า ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพต้องการเข้ามาเปิดธุรกิจใน จ.เชียงใหม่มากที่สุดในโลก รวมถึงมีข้อมูลพบว่า ในช่วงไตรมาสสองที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในไทยที่มีเอกชนเข้ามาลงทุนแล้ว 70 บริษัท คิดเป็นวงเงินลงทุนมากกว่า 4,000 ล้านบาท และสตาร์ทอัพ สามารถเข้าไปจดทะเบียนระดมทุนในตลาดหุ้นได้แล้ว 8 บริษัท

ทั้งนี้ “งานสตาร์ทอัพไทยแลนด์ และดิจิทัล ไทยแลนด์ 2016” จัดขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 16-18 ก.ย. 2559 ที่โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดภูเก็ต พร้อมเปิดให้ผู้สนใจ นักลงทุน และคนทั่วไปเข้ามาร่วมงาน คาดว่างานนี้จะมีคนสนใจเข้าชมงานมากกว่า 5,000 คน