สื่อดิจิทัลหนุนคนไทยรักการอ่านเพิ่ม
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เผยสื่อดิจิทัลหนุนคนไทยรักการอ่าน เพิ่มจากเฉลี่ยวันละ 37 นาที เป็น 66 นาที ลุ้นยุทธ์ศาสตร์ 20 ปีบิ๊กตู่ ดันหนังสือโต
สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เผยสื่อดิจิทัลหนุนคนไทยรักการอ่าน เพิ่มจากเฉลี่ยวันละ 37 นาที เป็น 66 นาที ลุ้นยุทธ์ศาสตร์ 20 ปีบิ๊กตู่ ดันหนังสือโต
นายจรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มการอ่านของคนไทยในปัจจุบันมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 66 นาที/วัน จาก 37 นาที/วัน เนื่องจากคนไทยให้ความสนใจข้อมูลข่าวสารในสื่อดิจิทัลมากขึ้น จึงทำให้แนวโน้มการอ่านของคนไทยเริ่มปรับทิศทางดีขึ้น หลังคนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสื่อโซเชียลมากขึ้น
อย่างไรก็ดี แม้ว่าแนวโน้มการอ่านจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่แนวโน้มการอ่านหนังสือยังถือว่ามีอัตราการเติบโตอยู่ในระดับที่ต่ำ เนื่องจากการอ่านของคนไทยจะเพิ่มขึ้น ต้องขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลไหนให้ความสนใจอนุมัติงบสนับสนุนในเรื่องของการอ่านหนังสือเลย โดยเฉพาะการอนุมัติงบซื้อหนังสือเข้าห้องสมุด ซึ่งปัจจุบันมีงบสนับสนุนในด้านนี้น้อยมาก
“เราไม่เคยมองว่าสื่อดิจิทัลจะส่งผลกระทบต่อการอ่านของคนไทย ในทางตรงกันข้ามเรามองว่าสื่อดิจิทัลเข้ามากระตุ้นให้คนไทยมีความสนใจในการอ่านมากขึ้น เนื่องจากคนไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและอ่านสิ่งที่สนใจได้ทุกที่ทุกเวลา”นายจรัญ กล่าว
นายจรัญ กล่าวว่า การที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาประกาศยุทธศาสตร์พัฒนาประเทศ 20 ปี ทำให้ผู้ประกอบการในธุรกิจหนังสือเริ่มมีความหวังในการกระตุ้นให้ธุรกิจหนังสือมีอัตราการเติบโตมากขึ้น เนื่องจากวาระการอ่านถูกบรรจุเข้าไปในแผนของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 หากมีการพัฒนาตามแผนที่วางไว้จริง เชื่อว่าการอ่านของคนไทยจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ประเทศไทยยังคงมีอัตราเฉลี่ยในด้านของการอ่านหนังสืออยู่ในระดับต่ำ นอกจากจะขาดการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐในทุกรัฐบาลที่ผ่านมาแล้ว ทุกฝ่ายยังมุ่งเน้นแต่การจัดอีเวนต์ ในขณะที่ตัวคอนเทนต์ของการจัดงานที่เกี่ยวกับการอ่านไม่มี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าตลาดของธุรกิจหนังสือตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ยังคงมีมูลค่าเพียง 2 หมื่นล้านบาทเท่านั้น และถ้าหากยังไม่มีการแก้ไขปัญหามูลค่าตลาดของธุรกิจหนังสืออาจมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
สำหรับภาพรวมธุรกิจหนังสือในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยลบเศรษฐกิจ และไม่ได้รับแรงกระตุ้นจากหน่วยงานภาครัฐ จากผลกระทบดังกล่าวเชื่อว่าจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจหนังสือในสิ้นปีนี้จะยังคงอยู่ในภาวะทรงตัวเหมือนกับช่วงครึ่งปีแรก แต่กับการจัดงานมหกรรมหนังสือการต้อนรับยังดีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด