posttoday

ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ มิติใหม่สปอร์ตโรดสเตอร์

16 สิงหาคม 2559

สัมผัส "ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์" ที่มาพร้อมขุมพลัง4สูบ 2.0ลิตร แต่ปั่นแรงม้าได้ถึง 300 แรงม้า

โดย...สไปรท์

หลังจากเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยไปเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา สำหรับ ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (The new 718 Boxster) ของ ปอร์เช่ ประเทศไทยโดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ก่อนจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในงานบิ๊ก มอเตอร์เซลส์ 2016 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-28 ส.ค. ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา

ปอร์เช่ ประเทศไทย จึงได้จัดงาน การเปิดประสบการณ์การขับขี่ “The new 718 Boxster Driving Experience 2016” ให้ได้สัมผัสรถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นดังกล่าวที่ลานอเนกประสงค์ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งได้เนรมิตลานอเนกประสงค์ให้เป็นสนามทดสอบ โดยมีการจำลองขึ้นมาเป็นสถานีต่างๆ อาทิ สถานีทดสอบการขับขี่แบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางต่อเนื่อง (สลาลม) สถานีการเปลี่ยนช่องทางการขับขี่แบบฉุกเฉิน (เลนเชนจ์) และสถานีการเบรกฉุกเฉิน

จุดเด่นของรถสปอร์ตโรดสเตอร์คันนี้ถึงแม้จะย่อส่วนขนาดเครื่องยนต์ให้เล็กลงเหลือ 2.0 ลิตร แบบ 4 สูบวางกลาง แต่พละกำลังสูงสุดที่ได้อยู่ที่ 300 แรงม้า (220 กิโลวัตต์) และแรงบิดสูงสุด 380 นิวตัน-เมตร ซึ่งถือได้ว่าไม่ธรรมดาในเครื่องยนต์ขนาดความจุเท่านี้ ส่วนอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 13.5-14.4 กิโลเมตร/ลิตร หรือ 7.4-6.9 ลิตร/100 กิโลเมตร

ขณะที่การออกแบบภายในห้องโดยสารถือได้ว่ามีความแตกต่างจากรุ่นก่อนๆ ของปอร์เช่ ซึ่งมีความทันสมัยและใช้งานง่ายยิ่งขึ้น ตั้งแต่หัวจรดท้าย ไม่ว่าจะเป็นฝากระโปรง กระจกบังลมหน้า ภายในของหลังคาประทุน รวมไปถึงชุดแผงหน้าปัดและคอนโซลที่ได้รับการดีไซน์ขึ้นใหม่ทั้งหมดสำหรับรถสปอร์ตคันนี้

ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ มิติใหม่สปอร์ตโรดสเตอร์

ถึงแม้จะเป็นในช่วงระยะทางที่ไม่ยาวมากนักก็ตาม แต่สิ่งที่เจ้าปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ แสดงออกมาให้เห็นในการขับขี่ถึง 2 รอบสนามด้วยกันทำให้รับรู้ถึงความคล่องตัวในการควบคุมของรถสปอร์ตโรดสเตอร์เครื่องยนต์วางกลางคันนี้ได้ดีทีเดียว ด้วยการที่มีจุดศูนย์ ถ่วงของตัวรถที่ต่ำและการกระจายน้ำหนักด้วยเครื่อง ยนต์ที่วางกลางนั้นแล้ว ทำให้การควบคุมง่ายชนิดที่ต้องเรียกว่าติดมือติดเท้ากันเลยทีเดียว

ขณะที่จังหวะการเรียกกำลังเครื่องยนต์ถึงแม้จะเป็นช่วงสั้น แต่ด้วยความกระโชกโฮกฮากของขุมพลังเครื่องยนต์นั้นแสดงให้เห็นถึงความพร้อมเมื่อต้องการเรียกใช้งาน ทำให้รถสปอร์ตคันนี้ดูลงตัวทั้งช่วงล่างและเครื่องยนต์ได้เป็นอย่างดี

สนนราคาค่าตัวของ ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ (Boxster) ราคาเริ่มต้นที่ 7.2 ล้านบาท และ ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ เอส (Boxster S) ราคาเริ่มต้นที่ 8.5 ล้านบาท

นอกจากนั้น ปอร์เช่ ประเทศไทย โดยบริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ ด้วยทีมวิศวกรผ่านการทดสอบระดับเหรียญทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) จำนวน 10 คน

ถือได้ว่าด้วยจำนวนที่มากของศูนย์บริการรถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการให้บริการหลังการขายของเอเอเอส โดยการอบรมวิศวกรให้มีคุณภาพสูงสุดตามนโยบายของบริษัทที่ว่าเอเอเอสดูแลทั้งรถและคุณ “AAS Looking after YOU and your CAR”

ปอร์เช่ 718 บ็อกซเตอร์ มิติใหม่สปอร์ตโรดสเตอร์