บูมขนส่งทางรางแหลมฉบัง

การรถไฟฯ จับมือการท่าเรือฯ เพิ่มขนส่งสินค้าทางรางท่าเรือแหลมฉบัง ลดต้นทุนโลจิสติกส์ 5-10%

การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการขนส่งสินค้าของศูนย์การขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ ท่าเรือแหลมฉบัง และสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การลงนามเอ็มโอยูดังกล่าวเป็นการปรับเปลี่ยนการขนส่งสินค้าจากรถบรรทุกเป็นระบบขนส่งทางราง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณรถบรรทุกที่เข้าท่าเรือแหลมฉบัง ลดการใช้น้ำมัน ทำให้เอกชนลดต้นทุนโลจิสติกส์ได้ 5-10%

ขณะเดียวกัน ในส่วนของ รฟท. คาดว่าจะเพิ่มปริมาณการขนส่งตู้สินค้าได้เพิ่มเป็น 2 ล้านทีอียู/ปี ในอีก 5 ปีข้างหน้าจาก ปัจจุบันซึ่งมีการขนส่งตู้สินค้าได้ประมาณ 5 แสน-1 ล้านทีอียู ซึ่งจะทำให้ รฟท.ได้เงินจากการให้บริการเพิ่มจากปีละ 100 ล้านบาท เป็นปีละ 200 ล้านบาท

ทั้งนี้ รฟท.ได้สั่งซื้อขบวนตู้ขนส่งสินค้ารุ่นใหม่ จำนวน 308 คัน โดยมีการส่งมอบรอบแรกแล้ว 150 คัน หลังจากนี้จะมีการประกอบและทดสอบการใช้งานอย่างเต็มระบบก่อนเปิดให้บริการขนส่งสินค้าในปลายปีนี้ ส่วนโบกี้บรรทุกสินค้าที่เหลืออีก 158 คัน ทางบริษัทเอกชนจะทยอยส่งมอบอีกครั้งในเดือน ก.ย.นี้

นอกจากนี้ กทท.ได้ขยายช่องจราจรในท่าเรือแหลมฉบังเพื่อให้การจราจรภายในท่าเรือสะดวกขึ้น เมื่อออกจากท่าเรือทางกรมทางหลวงได้ทำทางเชื่อมกับมอเตอร์เวย์สาย 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรี บริเวณหน้าทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหารถเข้าท่าเรือได้ รวมทั้งกรมทางหลวงชนบทจะทำถนนทางเข้าท่าเรือแหลมฉบังอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่ง กทท.เห็นว่าในอนาคต สินค้าที่มาจากประเทศอาเซียนจะเข้ามาใช้ท่าเรือแหลมฉบังมากขึ้น จึงต้องปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพเพราะจำนวนรถที่เข้ามาจะมากขึ้น

ร.อ.สุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการ กทท. กล่าวว่า ได้มีการปรับพื้นที่บริเวณหน้าท่าเรือเพื่อให้รองรับเรือขนส่งสินค้าได้เพิ่มขึ้นจากขนาด 8 หมื่นตัน เป็น 1 แสนตัน ส่วนโครงการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและศึกษารูปแบบการร่วมลงทุนกับเอกชนว่ารูปแบบใดที่สุด

บรรยายภาพ - เชื่อมขนส่งสินค้า : นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม (ที่2จากซ้าย) เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.)และการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เพื่อเชื่อมต่อรถ-เรือ- รางเชื่อมท่าเรือแหลมฉบัง ช่วยเอกชนลดต้นทุนโลจิสติกส์ ตั้งเป้ารถไฟขนตู้สินค้าได้เพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านทีอียูภายใน 5 ปีสร้างรายได้เพิ่มเท่าตัว