posttoday

มั่นใจคลื่นทุนไฮเทคจีนไหลเข้าไทย

30 มิถุนายน 2559

“สมคิด” มั่นใจคลื่นนักลงทุนไฮเทคจีนไหลเข้าไทย เผยรายใหญ่-สตาร์ทอัพมองไทยเป็นเกตเวย์อาเซียน

“สมคิด” มั่นใจคลื่นนักลงทุนไฮเทคจีนไหลเข้าไทย เผยรายใหญ่-สตาร์ทอัพมองไทยเป็นเกตเวย์อาเซียน

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางไป โรดโชว์การลงทุนที่ประเทศจีนระหว่าง วันที่ 26-30 มิ.ย. คณะฝ่ายไทยได้พบกับทั้งผู้ประกอบการรายใหญ่และกลุ่มสตาร์ทอัพที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไทยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเพื่อปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศ โดยนักลงทุนจีนเห็นตรงกันว่าไทยเป็นเกตเวย์และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอาเซียนและเป็นฐานการผลิตที่สำคัญ ดังนั้นบริษัทด้านอิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที สตาร์ทอัพที่ใช้เทคโนโลยีสูงต่างต้องการจะลงทุนในไทย

“นักลงทุนจีนมองตรงกันคือต้องการให้เราเป็นฐานเพื่อผลิตและส่งไปยังอาเซียน อินเดีย และเอเชียใต้อื่นๆ เชื่อว่าอนาคตข้างหน้าจะมีคลื่นนักลงทุนจีนเข้ามาลงทุนในไทยอีกมาก และจะเป็นกลุ่มไฮเทคที่รัฐบาลให้การส่งเสริม การที่เราได้เดินทางไปโรดโชว์ในประเทศต่างๆ ทั้งญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย อินเดีย และมาที่จีนเป็นการต่อจิ๊กซอว์เพื่อที่จะให้ทุกประเทศมองไทยเป็นประตูไปยังอาเซียนทั้งสิ้น” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า จากการพบปะพูดคุยกับนักลงทุนจีน พบว่านักลงทุนจีนต้องการให้ทางการไทยหาพันธมิตรที่ดี ในไทย เนื่องจากลักษณะของนักลงทุนจีนรุ่นใหม่จะไม่ต้องการเข้าไปลงทุนเองใหม่ทั้งหมด แต่ต้องการมีพันธมิตรท้องถิ่นที่ดี ซึ่งส่วนนี้ได้มอบให้สำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) รับดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ สำนักงานบีโอไอ ประจำนครเซี่ยงไฮ้ ได้จัดงานสัมมนา เรื่อง “ประเทศไทยกับการก้าวสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นการชี้แจงนโยบายส่งเสริมการลงทุน นโยบายคลัสเตอร์ และมีนักลงทุนจีนกว่า 500 คนเข้าร่วมรับฟังปาฐกถาของนายสมคิด โดยนายสมคิดกล่าวกับ
นักลงทุนว่ารัฐบาลไทยอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศ จึงต้องการเชิญนักลงทุนจีนไปลงทุนใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) รวมไปถึงการลงทุนในด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล

“เราอยากให้นักธุรกิจจีนเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรลงทุนในช่วงเวลาสำคัญที่ไทยกำลังเปลี่ยนแปลงประเทศ รัฐบาลไทยพร้อมให้การดูแลอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะในโครงการอีอีซีจะเป็นแอ่งใหญ่ที่อยากเชิญชวนจีนเข้าไปลงทุน เพราะในการมาครั้งนี้ได้หารือร่วมกับเอกชนยักษ์ใหญ่ของจีนหลายรายแล้ว ทั้งด้าน
โลจิสติกส์ ยานยนต์ สื่อสารอุตสาหกรรมขนส่งทางท่อ และเคเบิลใยแก้วนำแสง ทั้งหมดได้ตอบรับว่าจะเข้ามาลงทุนอยากให้มองไทยเป็นประตูการค้าการลงทุนหรือเกตเวย์ใหม่ที่ไม่ใช่แค่เพื่อประโยชน์ของไทย แต่เป็นการร่วมพัฒนาประเทศอื่นๆ ในอาเซียน” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด ระบุว่า การที่นักลงทุนจีนจะเข้ามาลงทุนในไทยยังสอดคล้อง กับนโยบาย One Belt One Road ของจีน โดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV นั้น เศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มนี้โตเฉลี่ย 7-8% เช่นเดียวกับเรื่องการพัฒนาระบบไอทีจะทำไปควบคู่กับการเปลี่ยนผ่านเพื่อผลักดัน ไปสู่ประเทศไทย 4.0 ซึ่งภายใน 2-3 ปีนี้จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง

นอกจากนี้ นายสมคิดได้หารือกับบริษัทเป็นรายบริษัท อาทิ ฟูทง กรุ้ป  ผู้ผลิตเคเบิลใยแก้วนำแสงซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก ปัจจุบันมีการลงทุนในไทยอยู่แล้วแต่มีแผนจะลงทุน เพิ่ม 1,650 ล้านบาท บริษัท เอสเอไอซี คอร์ปอเรชั่น บริษัทผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของจีน ที่ปัจจุบันเป็นพันธมิตรกับกลุ่มซีพี ได้ตัดสินใจลงทุนขยายกำลังการผลิตในไทยจากปีละ 3 หมื่นคัน เป็น 5.2 หมื่นคัน มูลค่าลงทุน 9,200 ล้านบาท และยังสนใจผลิตรถกระบะและรถยนต์ไฟฟ้า

ขณะที่ บริษัท หยางโจว เหินซุน ผู้ผลิตวาล์วอิเล็กทรอนิกส์สำหรับอุตสาหกรรมทางท่อ ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 1 ในจีน มีแผนลงทุนในการผลิตวาล์วน้ำอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขายทั้งไทยและอาเซียนมูลค่าลงทุน 4,000 ล้านบาท