ยอดยื่นรง.4พลิกติดลบ

กรอ.เผยยอดยื่นขอ ร.ง.4 ช่วง 4 เดือนแรกหดตัว มูลค่าลงทุนลดลง 7% เฉพาะ เม.ย.ทรุด 23% เชื่อครึ่งปีหลังดีแน่

นายพสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ยอดขอใบอนุญาตประกอบกิจการ (ร.ง.4) ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2559 ปรับตัวลดลงทั้งจำนวนโรงงานและมูลค่าลงทุน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโรงงานที่ยื่นขอใบ ร.ง.4 มีจำนวน 1,300 โรงงาน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการยื่นขอ 1,350 โรงงาน หรือลดลง 3.61% โดยมีมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ 9.96 หมื่นล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 1.31 แสนล้านบาท หรือลดลง 23.91%

ขณะที่ยอดยื่นขอขยายกิจการในช่วง 4 เดือนแรก มีจำนวน 238 โรงงาน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดยื่นขอขยาย 239 โรงงาน หรือลดลง 0.41% โดยมูลค่าลงทุนอยู่ที่ 5.89 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่า 3.89 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 51.4%

ทั้งนี้ เมื่อรวมยอดขอ ร.ง.4 และขยายกิจการในช่วง 4 เดือน จะพบว่า จำนวนโรงงานที่ยื่นขอลดลงเล็กน้อยเหลือ 1,543 โรงงาน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดยื่น 1,593 โรงงาน และมูลค่าลงทุนลดลงเหลือ 1.58 แสนล้านบาท จากปีก่อนที่มีมูลค่าลงทุน 1.69 แสนล้านบาท หรือลดลง 7%

“แม้ว่าสถิติการขอใบ ร.ง.4 ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จะปรับตัวดีขึ้น โดยมียอดยื่นขอ 369 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดยื่น 355 โรงงาน หรือเพิ่มขึ้น 3.94% แต่มูลค่าการลงทุนลดลงเหลือ 3.13 หมื่นล้านบาท ลดลงจากเดือน เม.ย.ปีที่แล้วที่มีมูลค่าลงทุน 7.14 หมื่นล้านบาท ขณะที่ยอดยื่นขยายกิจการในเดือน เม.ย. มีจำนวน 42 โรงงาน จากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 48 โรงงาน หรือลดลง 12.5% โดยมูลค่าลงทุนเพิ่มเป็น 8,200 ล้านบาท จากเดือน เม.ย. 2558 ที่มีมูลค่าลงทุนเพียง 4,670 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 75.4%” นายพสุ กล่าว

ก่อนหน้านี้ กรอ.แถลงตัวเลขยอดคำขอใบ ร.ง.4 ไตรมาสแรกของปี 2559 พบว่ายอดยื่นขอตั้งโรงงานและขยายโรงงานอยู่ที่ 1,181 โรงงาน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีก่อนที่มียอดยื่นขอ 1,096 โรงงาน หรือเพิ่มขึ้น 7.75% ขณะที่มูลค่าลงทุนอยู่ที่ 1.13 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าลงทุน 9.36 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21%

นายพสุ กล่าวว่า สถิติยอดยื่นของ ร.ง.4 และขอขยายโรงงานในช่วง 4 เดือนจะลดลงเล็กน้อย แต่ไม่มีนัยสำคัญ และเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังตัวเลขน่าจะดีขึ้น เพราะการลงทุนในคลัสเตอร์เป้าหมายของรัฐบาลเริ่มเห็นผลชัดเจนขึ้น เช่น คลัสเตอร์ปิโตรเคมี ชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นนาทีทองการลงทุน ส.อ.ท.จะเข้าไปหารือแต่ละเซ็กเตอร์ว่ามีความต้องการให้สนับสนุนเรื่องใดบ้าง