กทช. ประกาศร่างครอบงำต่างด้าว

กทช. ประกาศร่างครอบงำต่างด้าว ห้ามผู้ประกอบการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีผู้บริหาร เป็นต่างชาติ

พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดเผยว่า  ได้นำร่างประกาศว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวขึ้นประกาศเว็บไซต์เพื่อเตรียมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ  (ประชาพิจารณ์)  ในวันที่ 20 ส.ค.นี้ 

ร่างดังกล่าวจะคุ้มครองกิจการโทรคมนาคมโดยห้ามไม่ให้บริษัทที่อยู่ในธุรกิจนี้มีผู้บริหารในตำแหน่งผู้จัดการขึ้นไป จนถึงผู้บริหารสูงสุด เป็นชาวต่างชาติ ทั้งบริษัทที่จะเข้าร่วมประมูล 3 จี และ บริษัทให้บริการอยู่ในปัจจุบัน โดยหากร่างนี้ผ่านการประชาพิจารณ์และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา จะมีผลย้อนหลัง แม้ว่าการประมูล 3 จีจะผ่านไปแล้วก็ตาม 

สำหรับบริษัทที่ได้รับผลกระทบเรื่องนี้โดยตรง คือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น  หรือ ดีแทค เพราะปัจจุบันบริหารโดยกลุ่มเทเลนอร์ จากประเทศ นอร์เวย์  และ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส  ซึ่งจะต้องปรับเปลี่ยนผู้บริหารทันทีที่ร่างนี้มีผล

“ที่ผ่านมา ประชาชนรู้หมดว่าบริษัทไหน เป็นของประเทสใด  แต่ตรวจสอบไม่ได้ เพราะ ตามกฎหมายต่างชาติถือหุ้น 49%  ทั้งที่ความจริงมีมากกว่า ดังนั้น กทช.ในฐานะที่กำกับดูแลโดยตรงจึงต้องกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน” พ.อ.นที กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการประมูล 3 จี  นั้น  จะเปิดตรวจสอบคุณสมบัติขั้นต้น (Pre Qualification)  ในวันที่ 25-26 ส.ค. นี้  ได้จ้างสถาบันอุดมศึกษา 4 แห่งช่วยตรวจสอบคุณสมบัติ  ก่อนจะให้ยื่นประมูลวันที่ 30 ส.ค.

ทั้งนี้   จากการไปโรดโชว์ต่างประเทศได้รับความสนใจจากผู้ให้บริการต่างประเทศหลายราย คือ ไชน่า โมบาย  ไชนา ยูนิคอม ประเทศ จีน เอสเค เทเลคอม ประเทศเกาหลี เอ็นทีทีโดโคโม เคดีดีไอ ประเทศญี่ปุ่น แม็กซิส  ประเทศมาเลเซีย และ เอสทิส จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

นอกจากนี้  ยังเตรียมจัดงานแสดงเทคโนโลยี 3 จี หรือ หรือ 3.9G Thailand Human DNA Expo ระหว่างวันที่ 8-12 ก.ย.นี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้ใช้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นทั้งหมด  จากผู้ให้บริการทั้ง 5 ราย  คือ เอไอเอส ดีแทค ทรูมูฟ กสท โทรคมนาคม และ ทีโอที