posttoday

รพ.กรุงเทพภูเก็ตลุยเปิดศูนย์ตรวจสมอง เจาะกลุ่มอายุ35-40ขึ้นไป

24 กุมภาพันธ์ 2559

โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตทุ่ม 25 ล้าน ตั้งศูนย์ตรวจวิเคราะห์และเสริมสร้างศักยภาพทางสมอง เจาะกลุ่มอายุ 35-40 ปีขึ้นไป

โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ตทุ่ม 25 ล้าน ตั้งศูนย์ตรวจวิเคราะห์และเสริมสร้างศักยภาพทางสมอง เจาะกลุ่มอายุ 35-40 ปีขึ้นไป

นายก้องเกียรติ เกษเพ็ชร์ ประธานคณะผู้บริหารเครือโรงพยาบาลกรุงเทพกลุ่มภาคใต้ และ กรรมการผู้จัดการ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต เปิดเผยว่า แนวโน้มคนในสังคมจะมีอายุยืนยาวขึ้น เนื่องจากวิวัฒนาการทางการแพทย์ และคนมีความรู้เพิ่มขึ้น เข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อคนอายุมากขึ้นแล้ว สิ่งที่ต้องประสบคือโรคของความเสื่อมถอยต่างๆ ทางร่างกาย เช่น โรคสมองเสื่อมซึ่งส่งผลโดยตรงต่อตัวผู้ป่วยและครอบครัว ส่งผลต่อสังคมและเศรษฐกิจด้วย ซึ่งปัจจุบันพบผู้สูงอายุ ป่วยและเสียชีวิตด้วยโรคสมองเสื่อมมากติดอันดับ 1 ใน 10 แต่การรักษาโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ยังเป็นแบบประคับประคองอากา ไม่มียารักษาโรคที่ได้ผล ดังนั้นโรงพยาบาลตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันโรคนี้จึงใช้งบ 25 ล้านบาท จัดตั้งศูนย์ตรวจวิเคราะห์และเสริมสร้างศักยภาพทางสมอง (Phuket Brain Health Institute) เพื่อสร้างความตระหนักรู้และให้คนหันมาใส่ใจและดูแลสมอง เพื่อป้องกันและช่วยยืดอายุสมองให้ใช้งานได้นานมากขึ้น

"จากข้อมูลทางการแพทย์ปัจจุบันพบว่า โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์จะเริ่มก่อตัวมาตั้งแต่ 10-20 ปี ก่อนเกิดอาการ ส่วนใหญ่โรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์มักมีอาการแสดงของโรคตอนอายุ 65 ปีขึ้นไป เท่ากับว่า ตอนที่อายุ 40-50 ปีขึ้นไป ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอัลไซเมอร์ ดังนั้นหากตรวจเช็คสุขภาพและดูแลสุขภาพสมองอย่างดีเหมือนที่ดูแลร่างกาย จะช่วยยืดอายุการใช้งานของสมอง พัฒนาศักยภาพไปสู่จุดที่ดีกว่าเดิมได้ คือ เมื่ออายุมากขึ้นจะคงประสิทธิภาพของสมองให้ดีได้ จึงเปิดศูนย์ตรวจวิเคราะห์และเสริมสร้างศักยภาพทางสมอง โดยในศูนย์ฯ นี้จะมีโปรแกรม Brain health ใช้เป็นแนวทางวิเคราะห์และพัฒนาศักยภาพทางสมอง ให้เหมาะสมกับผู้ที่เข้ารับโปรแกรม มีทีมแพทย์เฉพาะทางและเทคโนโลยีสมัยใหม่ร่วมประเมิน รักษาในระยะสั้น 1 สัปดาห์ ผู้เข้ารับโปรแกรมทุกคนจะได้รับการประเมินภาพรวมของร่างกายเบื้องต้นโดยโดยแพทย์ อาทิ การตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ การประเมินศักยภาพทางสมองและจิตวิทยาการถ่ายภาพทางสมอง MRI การถ่ายภาพจอประสาทตา (Retinal scan) และการตรวจการนอนหลับ (Sleep test)"นายก้องเกียรติกล่าว 

ทั้งนี้ผู้เข้ารับโปรแกรมทุกคนต้องเข้าโปรแกรมการพัฒนาศักยภาพสมอง ตั้งแต่การรับประทานอาหารเพื่อเพื่อสุขภาพสมอง การออกกำลังกายให้กับร่างกาย การเล่นโยคะ และการนั่งสมาธิ การฝึกสมองโดยโปรแกรม Cognitive Training เพื่อส่งเสริมทักษะในการแก้ปัญหา กระบวนการทางความคิด เทคนิคการจำและการให้ออกซิเจนความดันสูง (Hyperbaric Oxygen Therapy, HBOT) เพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนในร่างกายรวมถึงสมอง และผู้เข้ารับโปรแกรมจะได้รับการประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหลังจากการเข้ารับโปรแกรมจนครบ 

สำหรับเหตุผลที่เลือกศูนย์ฯ ที่จังหวัดภูเก็ตเพราะความพร้อมทางบุคลากรการแพทย์ เครื่องมือ และเป็นจังหวัดที่เหมาะแก่การมาพักผ่อน ปัจจุบันศูนย์ฯ รองรับผู้ใช้บริการได้ 5 คนต่อครั้ง มีแผนขยายเป็น 10 คนต่อครั้งได้ในอนาคต กลุ่มเป้าหมายของศูนย์ฯ คือคนอายุ 35-40 ปีขึ้นไป ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพสมอง หรือ มีประวัติบุคคลใกล้ชิดป่วยเป็นโรคสมองเสื่อม ผู้บริหารที่ต้องการเสริมศักยภาพทางสมอง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.phuketbrainhealthinstitute.com