ดัชนีมาม่าเชื่อเศรษฐกิจโงหัว

สหพัฒน์ลุ้นบะหมี่ฯ ปีนี้โต 2% สะท้อนเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้น หลังปีก่อนโตต่ำสุด 44 ปี

นายเวทิต โชควัฒนา กรรมการรองผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล ผู้จัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรา มาม่า เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีนี้คาดจะเติบโต 2% หรือโงหัวขึ้นได้ โดยมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจมีสัญญาณฟื้นตัว จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน อุตสาหกรรมท่องเที่ยวขยายตัว ส่งผลให้กำลังซื้อผู้มีรายได้น้อยเริ่มฟื้น

ขณะที่ภาพรวมตลาดบะหมี่ฯ มูลค่า 14,576 ล้านบาท ปี 2558 เติบโต 0.4% และรายได้ของบริษัทโต 0.4% ถือว่าโตต่ำสุดในรอบ 44 ปี หรือนับตั้งแต่ทำธุรกิจผลิตมาม่า เนื่องจากผู้บริโภคหันไปซื้อข้าวสารถุงแบ่งขายกินรายวันแทน ซึ่งราคาขายต่ำกว่าบะหมี่ฯ ชนิดซองราคา 6 บาท เป็นดัชนีชี้วัดถึงกำลังซื้อผู้บริโภคตกต่ำที่สุด จากเมื่อปี 2557 ตลาดบะหมี่ฯ ยังโตกว่า 1% เท่ากับตลาดข้าวสารบรรจุถุง

"ปี 2558 บะหมี่ฯ ชนิดถ้วยสัดส่วน 24% ของตลาดรวมโต 1.8% จากปี 2557 โต 8.6% ส่วนบะหมี่ฯ ชนิดซอง สัดส่วน 76% ติดลบ ส่วนปีนี้ปัจจัยลบที่กังวลคือ ภัยแล้งจะส่งผลต่อกำลังซื้อกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตลาดบะหมี่ฯ เพราะเป็นฐานลูกค้าหลัก" นายเวทิต กล่าว

ทั้งนี้ แผนธุรกิจเดินหน้าสร้างตลาดให้เติบโต ด้วยการเปิดตัวรสชาติใหม่นำมาม่าที่มีอยู่ 24 รสชาติ โดยเลือกรสชาติที่มีศักยภาพกลับมาสื่อสารผ่านทางโฆษณาใช้งบตลาด 250 ล้านบาท ประเดิมจัดแคมเปญชิงโชคมาม่า อร่อยออกรถ แจกรถโตโยต้ารีโว่ทุกเดือน แจกทองทุกวัน แจกทองคำ 265 รางวัล เพราะเป็นรางวัลที่คนอยากได้มากที่สุด

นอกจากนี้ ยังรุกขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น หลังตลาดในประเทศอิ่มตัว ขณะนี้โรงงานที่ฮังการีมีกำลังผลิตพร้อมป้อนตลาดยุโรป โดยปีที่ผ่านมารายได้ส่งออก 2,000 ล้านบาท โต 9% ส่วนรายได้ทั้งปีตั้งเป้าโต 5% หรือ 1.05 หมื่นล้านบาท จากปีที่ผ่านแตะ 1 หมื่นล้านบาท มาม่ามีส่วนแบ่ง 51% ไวไว 21% ยำยำ 20%