200-500 ซูมนี้ซิมาแรง

โดย...ปริญญา ผดุงถิ่น

อาทิตย์นี้สลับฉากด้วยการรีวิวอุปกรณ์ถ่ายภาพ เป็นเลนส์ใหม่ของนิคอน 200-500 ชื่อเป็นทางการคือ Nikon AF-S NIKKOR 200-500 mm f/5.6E ED VR

ผมนำเลนส์ตัวนี้ไปลองกับสัตว์ตระกูลไพรเมท 2 ชนิด คือลิงอ้ายเงียะ ที่ทองผาภูมิ และก็ชะนีมือขาว ที่เขาพะเนินทุ่ง อุทยานฯ แก่งกระจาน ด้วยวิธีการเดียวกันคือ “ยกซด” ด้วยมือดื้อๆ ก็ไหนๆ เขาทำเลนส์ตัวนี้ให้มีน้ำหนักเบาแค่ 2 โล 1 ขีด แถมมีระบบกันสั่น หรือ VR มาพร้อม

สิ่งที่ผมได้รับก็คือ ความมันสะใจ เพราะปกติเวลาใช้เลนส์แรงสูงระดับเลนส์ 500 ต้องพึ่งขาตั้งอันแข็งแรง และหัวรองรับดีๆ ราคารวมร่วมครึ่งแสน ถึงจะช่วยให้ภาพนิ่งแบบไว้ใจได้

แต่เจ้า 200-500 ซึ่งยกซดด้วยสองมือเปล่า ก็สามารถให้ภาพคมกริบ ลองใช้สปีดแค่ 1/100 ตามถ่ายความยุกยิกของชะนี ได้ผลลัพธ์ที่ดี แบบว่าถ้าไม่บอก เป็นใครก็คงนึกว่าใช้ขาตั้งช่วย

เช่นเดียวกับความคมก็จัดมาอย่างน่าทึ่ง ทั้งที่เป็นเลนส์ซูม และเป็นเลนส์ 500 “โลว์คอสต์” ค่าตัวแค่ประมาณ 4.5 หมื่นบาท แต่ความคมและความละเอียด ต้องบอกว่าดีเกินราคา

ผมนึกย้อนไปตอนเริ่มถ่ายนก เลนส์ตัวแรกคือ 300 f4 ซึ่งราคาของประกันศูนย์อยู่ที่ 4.4 หมื่นบาท ความคมของ 300 ตัวนั้น แพ้ 200-500 หลุดลุ่ย อีกทั้งเป็นเลนส์ที่ไม่มีกันสั่น หากจำเป็นต้อง “ยกซด” ก็ต้องดัน ISO เพื่อเร่งสปีดให้สูงๆ และต้องรัวอุตลุด เพื่อหวังว่าจะมีช็อตคมๆ ติดมาบ้าง คนละเรื่องกับ 200-500 ซึ่งสามารถยกเล็ง “ปั้น” ถ่ายสปีดต่ำๆ ทีละช็อตได้เลย

ดูแล้ว นิคอนสร้าง 200-500 ออกมา เพื่อสู้กับเลนส์ของผู้ผลิตอิสระ ที่ออกช่วง 150-600 ราคาย่อมเยา ขายโกยไปก่อนหน้านี้มากมาย โดยทำราคาให้ลงมาพอฟัดพอเหวี่ยงกับคู่แข่งเหล่านั้น

ผลที่ตามมา นอกจากเขย่าวงการเป็นเลนส์ฮอตฮิตแล้ว (สอบถามจากร้านใหญ่) มันยัง “ฆ่า” เลนส์ค่ายเดียวกัน อย่าง 80-400 ตัวใหม่ที่เพิ่งออกมาไม่นานไปด้วย ลามไปถึง 300 f4 รุ่นเก่า เห็นช่างภาพนกปล่อยขายกันให้วุ่น ต้องเรียกว่าเป็นนาทีทองของการอัพเกรดอุปกรณ์เลยทีเดียว

หาก 200-500 จะมีข้อเสีย เห็นจะเป็นโฟกัสที่ตอบสนองช้ากว่าเลนส์แพงๆ แต่เมื่อบวกลบคูณหารแล้ว ก็ต้องพูดว่า “ถูกและดี” มีในโลกจริงๆ