posttoday

ลุย3อุตฯดันลงทุนปีหน้าโต9%

19 พฤศจิกายน 2558

"อรรชกา" ประกาศเน้น 3 คลัสเตอร์ "หุ่นยนต์-อากาศยาน-แพทย์" หนุนลงทุนปีหน้าขยายตัวได้ 8-9% จากมาตรการกระตุ้น อึ้งเอฟดีไอมาไทยลดเหลือ20%

"อรรชกา" ประกาศเน้น 3 คลัสเตอร์ "หุ่นยนต์-อากาศยาน-แพทย์" หนุนลงทุนปีหน้าขยายตัวได้ 8-9% จากมาตรการกระตุ้น  อึ้งเอฟดีไอมาไทยลดเหลือ20%

นางอรรชกา สีบุญเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงจะเน้นออกมาตรการส่งเสริม 3 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์เทียบเท่าคลัสเตอร์ หรือมีสิทธิประโยชน์ในการลงทุนที่มากกว่า ประกอบด้วย อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมอากาศยาน และอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ เนื่องจากทั้ง 3 อุตสาหกรรม เป็นตัวสนับสนุนการขยายตัวของอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ไทยในขณะนี้ เช่น อุตสาหกรรม ยานยนต์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมชิ้นส่วนทั้งทางบกและอากาศยาน ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น และอุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป ที่สามารถพัฒนาร่วมกันด้วยเทคโนโลยีขึ้นมา

ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ที่อุตสาห กรรมกลุ่มนี้ควรได้รับ อาจจะ ต้องมีการหารือในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รมว.คลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อกำหนดสิทธิประโยชน์ที่ดึงดูดนักลงทุนมากกว่าประเทศในอาเซียน โดยอาจจะใช้เกณฑ์แบบคลัสเตอร์ หรือใช้มาตรการทางการคลังที่ยกเว้นภาษีสูงสุด 10-15 ปี เป็นต้น

"วันที่ 20 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการคลัสเตอร์ เพื่อกำหนดแนวทางของ 6 คลัสเตอร์ เช่น ยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปิโตรเคมี ดิจิทัล เกษตรแปรรูป และสิ่งทอ ซึ่งจะตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาช่วยดูแล ส่วนคลัสเตอร์ในอนาคต เช่น หุ่นยนต์ ที่ไทยนำเข้าปีละหลายแสนล้านบาท อากาศยาน เราพร้อมจะเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานในภูมิภาค" นางอรรชกา กล่าว

สำหรับการลงทุนในปีหน้าจะขยายตัวดีขึ้นประมาณ 8-9% เมื่อเทียบกับปีนี้ที่มีแนวโน้มขยายตัว 2% และจะขยายตัวต่อเนื่องไปปี 2560 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ บีโอไอมีมาตรการเร่งรัดโครงการลงทุนในกลุ่มที่ได้รับอนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วภายในปี 2559-2560 ขณะที่การลงทุนของต่างชาติในประเทศไทยยังคงขยายตัวเช่นกัน เพราะนักลงทุนจะมองระยะยาว

"ถ้าพิจารณาตัวเลขในช่วงปี 2549-2557 พบว่าการลงทุนขยายตัวเพียง 2% ขณะที่จีดีพีประเทศโต 3.4% สัดส่วนเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่เข้ามาในกลุ่มอาเซียน และเข้ามายังไทยลดลงจาก 31% ของเงินทั้งหมด ลดลงเหลือเพียง 20% เท่านั้น หรือลดลงถึง 6% ต่อปี จึงต้องเร่งแก้ไข" รมว.อุตสาหกรรม กล่าว