รีฟอร์มมิ่ง4'Ps รับปี'59ยุคดิจิทัล

โดย....ทีมข่าวธุรกิจตลาดโพสต์ทูเดย์

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่เริ่มเห็นภาพชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้นักการตลาดต้องปรับตัวอย่างหนักเพื่อก้าวให้ทันกับพลวัตที่เกิดขึ้น ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้เม็ดเงินในด้านต่างๆ เริ่มไหลเข้าสู่สื่อดิจิทัลมากขึ้น แต่เม็ดเงินที่น่าสนใจสำหรับนักการตลาด คือการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านทุกอุปกรณ์

แม้ว่าการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทย เพราะยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่กล้าที่จะจ่ายเงินผ่านช่องทางดังกล่าว เนื่องจากยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ขณะเดียวกันก็ยังขาดความมั่นใจในสินค้า เนื่องจากการซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าวไม่สามารถจับต้องสินค้าได้

จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นดังกล่าว ส่งผลให้ “สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย” ต้องออกมาฉายภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตผ่านงาน  Marketing Day 2015 ก้าวไกล...ไปกับการตลาดยุคใหม่ ภายใต้หัวข้อ Rethink Marketing : Reforming 4Ps เพื่อให้นักการตลาดได้ปรับตัวเท่าทันการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค เพราะส่วนผสมทางการตลาด 4P (Product-Price-Place-Promotion) ที่นักการตลาดยึด ต้องปรับให้เหมาะกับตลาดในยุคนั้นๆ

อนุวัตร เฉลิมไชย นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปีหน้าธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจะมีภาพความชัดเจนมากขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนมาจากการเกิดขึ้นของ 4จี ประกอบกับคนไทยเริ่มมีประสบการณ์ในการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น จึงทำให้ธุรกิจช็อปปิ้งออนไลน์เริ่มได้รับความนิยม

สำหรับกลุ่มสินค้าที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคในช่องทางออนไลน์ คือ เครื่องสำอาง และตั๋วเครื่องบิน ส่วนสินค้าที่ถือว่าเป็นสินค้าอนาคตและน่าจะได้รับความนิยมมากขึ้น คือ กลุ่มสินค้าอาหารสด เครื่องดื่ม และประกัน โดยกลุ่มลูกค้าที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากที่สุดยังเป็นผู้หญิง 

จากแนวโน้มดังกล่าว ส่งผลให้การทำงานของนักการตลาดยากขึ้น เพราะนักการตลาดต้องบริหารจัดการผู้บริโภคทุกอย่าง ถ้าอยากจะเข้าไปถึงตัวผู้บริโภคก็ต้องเข้าให้ถึงพฤติกรรมความต้องการว่าผู้บริโภคต้องการอะไร เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า

วรรณา สวัสดิกุล ประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายการตลาด บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม ห้างเทสโก้ โลตัส กล่าวว่า แม้ว่าปัจจุบันผู้บริโภคจะให้ความสนใจซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น แต่ขณะเดียวกันผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการที่จะเข้ามาสัมผัสสินค้าที่หน้าร้าน เพื่อใช้เป็นข้อมูลควบคู่ในการตัดสินใจซื้อสินค้า ซึ่งในส่วนของห้างเทสโก้ โลตัส ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งพอสมควร เนื่องจากมีช่องทางขายทั้งออฟไลน์ (หน้าร้าน) และออนไลน์ควบคู่กันไป

ด้วยเหตุปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจออนไลน์ เริ่มหันมาให้ความสนใจจับมือกับพันธมิตรที่ทำออฟไลน์มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้านของโลจิสติกส์ เนื่องจากผู้ประกอบการออนไลน์ส่วนใหญ่ เมื่อมีการขยายธุรกิจมากขึ้นจะมีปัญหาในเรื่องของการขนส่งสินค้า

วรรณา กล่าวว่า ตอนนี้หมดยุคที่นักการตลาดจะทำการตลาดแบบสื่อสารทางเดียวไปยังผู้บริโภคแล้ว เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคมีอุปกรณ์สื่อสารอยู่ในมือ ดังนั้น นักการตลาดยุคใหม่ควรมีศิลปะในการเล่าเรื่อง ซึ่งช่องทางที่ทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคปัจจุบัน คือ สื่อโซเชียลมีเดีย

เมื่อนักการตลาดสามารถดึงความสนใจของผู้บริโภคให้หันมาสนใจและดูสินค้าได้ก็จะเกิดการเข้ามากดไลค์ในสื่อโซเชียลมีเดีย หลังจากนั้นจะเกิดการแชร์ข้อมูล ตามด้วยการซื้อและนำสินค้านั้นไปใช้ กลยุทธ์การทำตลาดในรูปแบบดังกล่าวถือว่าแตกต่างไปจากเดิม ที่ธุรกิจค้าปลีกจะพูดถึงเรื่องการแข่งขันในด้านราคาเพียงอย่างเดียว แต่การทำการตลาดในรูปแบบดังกล่าวจะเน้นการพูดคุยกับลูกค้าและให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น

วรรณา กล่าวอีกว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่ห้างเทสโก้ โลตัส ทดลองทำตลาดในช่องทางออนไลน์ทุกอย่าง หนึ่งในนั้นคือการทำคลิปวิดีโอ เพื่อส่งไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในช่วงเทศกาลสำคัญของไทย เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกอินกับสินค้าที่บริษัทต้องการทำตลาด ซึ่งหลังจากทดลองก็พบว่าได้ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายในกลุ่มสินค้าที่บริษัทต้องการเน้นทำตลาดมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะแคมเปญปลาสลิดซื้อ 1 แถม 1 ยอดขายเพิ่มถึง 30%

นอกจากนักการตลาดจะมาให้ความสำคัญในด้านของการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว ในด้านของการสื่อสารไปยังผู้บริโภคก็ยังหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์มากขึ้นด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันผู้ประกอบการสินค้าเริ่มแบ่งงบตลาด 5-10% มาใช้ทำการตลาดและโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เนื่องจากช่องทางดังกล่าวเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และสามารถสื่อสารถึงความต้องการของผู้บริโภคได้ทันที ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลโตต่อเนื่องทุกปี เมื่อเป็นเช่นนี้ส่วนผสมการตลาดทั้ง 4’P จึงต้องเปลี่ยนรูปให้เป็นดิจิทัล