posttoday

ดิจิทัลคอนเทนต์หมื่นล้าน "อี-สปอร์ต" อีกโอกาสไทย

15 ตุลาคม 2558

อุตสาหกรรมเกมในไทยเติบโต14.7% ด้วยมูลค่า7.8พันล้านบาท การสนับสนุน "อี-สปอร์ต" อย่างเป็นรูปธรรมจะ เป็นอีกหนึ่งโอกาสสร้างรายได้เข้าประเทศ

โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาดโพสต์ทูเดย์

สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์ไทย มีมูลค่ารวมในแต่ละสาขา แบ่งเป็น แอนิเมชั่นอยู่ที่ 3,503 ล้านบาท โตติดลบ 8.1% ในขณะที่กลุ่มเกมเติบโต 14.7% หรือเป็นมูลค่า 7,835 ล้านบาท

จากการเติบโตของธุรกิจเกมดังกล่าว นิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า ตลาดกีฬาอี-สปอร์ตไม่ใช่เรื่องใหม่ในไทยอีกต่อไปแล้ว การสนับสนุนกีฬาประเภทอี-สปอร์ตอย่างเป็นรูปธรรมจะช่วยสนับสนุนธุรกิจด้านนี้ เป็นอีกหนึ่งช่องทางโอกาสที่จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศ

“เราควรจะเลิกอคติหรือมองว่าเกมเป็นการมอมเมาเยาวชน เพราะถ้ามองกลับไปในยุคของต๋อง ศิษย์ฉ่อย ที่มีการจัดมาตรฐานทางกีฬาชัดเจน ทำให้คนไทยเปลี่ยนแนวคิดว่าสนุกเกอร์เป็นกีฬาชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกัน หากมองว่าอี-สปอร์ตเป็นกีฬา จัดมาตรฐานและกฎระเบียบที่ชัดเจน จะช่วยสร้างรายได้ ทั้งจากการซื้อขายฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ คอนเทนต์และแอกเซสซอรี่ ถือว่าช่วยเรื่องการใช้จ่าย เพราะคนกลุ่มนี้กล้าใช้จ่ายสินค้าเหล่านี้ในมูลค่าค่อนข้างสูง” นิธิพัทธ์ กล่าว

ข้อมูลจากเว็บไซต์วิจัยทางด้านการตลาดอี-สปอร์ตโลก ระบุว่า จาก 16 ประเทศที่มีการสนับสนุนธุรกิจเกมและวงการอี-สปอร์ตอย่างเป็นทางการ สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 250 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 8,775 ล้านบาท รวมทั้งมูลค่าเงินรางวัลสำหรับการแข่งขันก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับตลาดเกมเมืองไทย ในส่วนของอุปกรณ์เกมยังไม่มีการเก็บตัวเลขชัด จะแบ่งเป็น เกมออนไลน์ เกมเติมเงิน แอกเซสซอรี่ ที่มีตัวเลขการซื้อขายที่ชัด ดังนั้น ถ้ามองในภาพรวมตลาดสินค้าฮาร์ดแวร์ในกลุ่มเกมมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 5% แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โตขึ้นต่อเนื่องถึง 20%

การผลิตฮาร์ดแวร์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะนักเล่นเกมเท่านั้น แต่ยังเป็นการทำตลาดในกลุ่มนักศึกษา นักพัฒนามัลติมีเดีย เพื่อนำไปใช้ทางการเรียนการสอน

“ยังมีความต้องการในตลาดฮาร์ดแวร์ขั้นสูง เดิมสินค้าสำหรับนักศึกษาที่เรียนด้านผลิตคอนเทนต์นั้น ต้องใช้เครื่องประกอบหรือสินค้าจากแบรนด์อเมริกาในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งอาจไม่ได้เต็มที่กับการทำงานอย่างที่ควรจะเป็น เพราะสินค้ากลุ่มนี้จะเริ่มต้นที่หลัก 3 หมื่นบาทขึ้นไป อีกทั้งยังมีความต้องการสินค้าในกลุ่มเน็ตคาเฟ่ ที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์และเอสเอ็มอีที่มีความต้องการสินค้าอย่างต่อเนื่อง โดยเอเซอร์ฯ ตั้งเป้าว่า ถ้าสามารถชิงส่วนแบ่งในกลุ่มคอมพิวเตอร์พรีเมียมดีไอวายที่มีอยู่ 43% มาให้ได้ 30% ขึ้นไป” นิธิพัทธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดไอทีในอีก 2 เดือนที่เหลือนี้ น่าจะโตไม่ถึงตัวเลข 2 หลักหรือดิจิท แต่ไม่น่าจะติดลบ ส่วนปีหน้ามองว่าจะดีกว่านี้ เพราะความพร้อมของเครื่องที่รองรับวินโดวส์ 10 ทยอยออกมามากขึ้น ความสามารถของระบบต่างๆ ด้านเทคโนโลยีก็ดีขึ้น ต้องลุ้นเศรษฐกิจในปีหน้าว่าจะโตแค่ไหน

“การอัพเดทเทคโนโลยีและคอนเทนต์ที่รองรับความต้องการของผู้ใช้งานมากขึ้น ถือว่าเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดไอทีอยู่ได้ โชคดีที่อุตสาหกรรมไอทียังมีความต้องการต่อเนื่องและภาครัฐก็ให้การสนับสนุน แม้กระทั่งกลุ่มคนสูงอายุที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ ก็เริ่มต้องการแท็บเล็ตมาใช้งานเพิ่มเติม การจัดงานกิจกรรมส่งเสริมการตลาดก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้มีการซื้อขายดิจิทัลคอนเทนต์มากขึ้น” นิธิพัทธ์ กล่าว

ทางด้าน พัทธกร พรศิริธิเวช ผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) กล่าวว่า กลุ่มที่มีอัตราการเติบโต คือ กลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทปรับแผนรุกเข้าไปในกลุ่มตลาดพรีเมียมมากยิ่งขึ้น คือ จอสำหรับเกมและการทำงานกราฟฟิก

“ในกลุ่มตลาดจอสำหรับเกมนั้น บริษัทมีส่วนแบ่งอยู่ราว 4.5 หมื่นเครื่อง หรือ 400 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดราว 40% ในไทย ซึ่งกลุ่มสินค้าจอมอนิเตอร์ถือว่าเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 50% โดยจะทำตลาดในกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้นผ่านทางคู่ค้าที่เป็นกลุ่มร้านค้าปลีกและประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นตลาดจอมอนิเตอร์โดยเฉพาะ” พัทธกร กล่าว

ขณะที่กลุ่มดิจิทัลเกมคอนเทนต์อย่างบริษัททรู ดิจิตอล พลัส ก็ยังสนับสนุนตลาดคอนเทนต์เกมและการแข่งขันอี-สปอร์ตอย่างต่อเนื่อง เพราะเห็นว่าคนรุ่นใหม่หันมาสนใจและตั้งใจฝึกฝนการเป็นเกมเมอร์ เพราะเป็นโอกาสสร้างรายได้สำหรับกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ที่มีความสามารถและทุ่มเทฝึกฝน ซึ่งเด็กที่เข้าแข่งขันกีฬาอี-สปอร์ตไม่ได้มองว่าเป็นแค่เกมเล่นฆ่าเวลา แต่ตั้งใจว่าจะเป็นอีกหนึ่งกีฬาที่จะสร้างให้เด็กไทยสู้กับนักกีฬาต่างชาติได้

ทั้งนี้ระหว่างวันที่ 16-18 ต.ค. บริษัท ทรู ไอ คอนเท้นท์ ได้ร่วมกับบริษัท โชว์ไร้ขีด จัดงาน THAILAND GAME SHOW BIG FESTIVAL 2015 ที่ รอยัล พารากอย ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยจะมีการการจัดแข่งขัน อี-สปอร์ตครั้งใหญ่ มีผู้เข้าร่วมแข่งขันกว่า 500 คน ซึ่งผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศกว่า 6,000 คน