ปีหน้ารับมือ4กระแสมาแรง

แนะรับมือ 4 แนวโน้มมาแรงปีหน้า แชริ่ง อีโคโนมี-สังคมสูงวัย-สโลว์ไลฟ์-สมาร์ทโฟน

นางดั่งใจถวิล อนันตชัย กรรมการผู้จัดการฝ่ายดำเนินการ บริษัท อินเทจ (ประเทศไทย) ผู้ดำเนินธุรกิจวิจัยด้านการตลาด เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในปีหน้าจะมีด้วยกัน 4 เทรนด์ ที่นักการตลาดต้องติดตาม และปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลง

แนวโน้มแรกคือ ธุรกิจเกิดใหม่แชริ่ง อีโคโนมี (Sharing Economy) มาจากการซื้อขายในเครือข่ายผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลเน็กเวิร์ก ซึ่งจะสร้างผลกระทบต่อสินค้าอย่างมาก เพราะผู้บริโภคจะไม่ซื้อหรือใช้บริการสินค้าเจ้าของแบรนด์ แต่จะใช้บริการจากผู้ขายที่เป็นผู้บริโภค เช่น การหาบ้านพักแทนใช้บริการโรงแรม การใช้บริการอูเบอร์แท็กซี่

ขณะที่เทรนด์ที่ 2 สังคมผู้สูงอายุ หรือประชากรไทยที่มีอายุมาก กว่า 55 ปีขึ้นไป พบว่าประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของผู้สูงอายุเร็วเป็นอันดับ 3 ของโลก และมีประชากรผู้สูงอายุจำนวนมากเป็นอันดับที่ 20 แต่ปัจจุบันยังไม่มีสินค้าตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง และพร้อมที่จะใช้เงินแลกบริการที่สะดวก ขณะนี้ในตลาดต่างประเทศเริ่มมีค้าปลีกสำหรับผู้สูงอายุ ชัั้นวางสินค้าที่เตี้ย หรือบริการแว่นขยายสำหรับอ่านราคาสินค้า ขณะที่ประเทศไทยยังค่อนข้างล้าหลังและยังไม่ตื่นตัวให้กับการพัฒนาสินค้า

ทั้งนี้ ในส่วนของเทรนด์ที่ 3 เกิดความต้องการมีชีวิตที่ยืนยาวของคนกรุง ตลาดจึงต้องการสินค้าหรือบริการที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ กระแสการรับประทานอาหารคลีน การใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์แบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างมีสาระ ชะลอตัวเองให้ไม่ไหลอย่างไร้ทิศทางไปตามกระแสสังคม ทำทุกอย่างช้าลง

สำหรับเทรนด์ที่ 4 การใช้สมาร์ทโฟน เข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งพบว่า ผู้บริโภคต้องการสินค้าที่สนองด้านความรวดเร็ว อาทิ ทำแอพพลิเคชั่นให้ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว และซื้อได้ 24 ชั่วโมง แต่ขณะเดียวกันนักธุรกิจต้องสร้างความสมดุลระหว่างช่องทางจำหน่ายออนไลน์และออฟไลน์ หรือร้านค้าปลีกให้ดี แม้ปัจจุบันโลกการค้าจะเข้าสู่ดิจิทัลก็ตาม

“เทสโก้ โลตัส เป็นแบรนด์ที่สร้างความสมดุลระหว่างช่องทางออนไลน์กับไฮเปอร์มาร์เก็ตได้ดี สร้างแอพพลิเคชั่นหรือให้ลูกค้าสแกนบาร์โค้ดสำหรับการซื้อสินค้า แต่ในขณะเดียวกันรณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกในไฮเปอร์มาร์เก็ตเพื่อลดต้นทุน” นางดั่งใจถวิล กล่าว

ด้านกลยุทธ์ตลาดปี 2559 ธุรกิจที่ขายสินค้าเพียงอย่างเดียว จะโดนชิงตลาดจากธุรกิจแชริ่ง อีโคโนมี สินค้าผู้สูงอายุยังมีช่องว่างให้ทำตลาดอีกมาก ซึ่งจะกลายเป็นตลาดใหญ่ ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น สินค้าต้องตอบโจทย์ความสะดวกและรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนี้ ที่มีฉลาดรวมทั้งอดทนต่ำได้