"ออฟฟิศเมท" ลุยเพิ่มธุรกิจบริการ

ออฟฟิศเมท รุกตลาดสำนักงาน ขยายไลน์ธุรกิจใหม่ให้บริการตั้งแต่จดทะเบียนตั้งบริษัทใหม่ยันปิดกิจการ

นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ซีโอแอล เปิดเผยว่า ในปี 2559 กลุ่มธุรกิจออฟฟิศเมทจะขยายไลน์ธุรกิจทางด้านบริการเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่เป็นผู้ให้บริการด้านอุปกรณ์สำนักงาน โดยจะให้บริการตั้งแต่การจัดตั้งสำนักงาน เริ่มตั้งแต่การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทใหม่ การทำบัญชี การจัดหาแม่บ้าน การจัดหาพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) จนไปถึงจดทะเบียนเพื่อยุติการจัดตั้งบริษัท เพื่อให้บริการครบวงจรมากขึ้น

“การเปิดสาขาของออฟฟิศเมทนั้นจะต้องมาเน้นบริการมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีช่องทางการออนไลน์ เว็บไซต์ และคอลเซ็นเตอร์ มาเป็นช่องทางแข่งขันใหม่ จึงต้องสร้างความแตกต่าง คือเพิ่มบริการต่างๆ มาเป็นจุดขายใหม่ จากก่อนหน้านี้มีบริการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ” นายวรวุฒิ กล่าว

จากก่อนหน้านี้บริษัทให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าและบริการภายใต้แนวคิด Business Services Solution ได้แก่ แพ็กแอนด์โพสต์ บริการจัดส่งพัสดุด่วนทั่วประเทศที่ร้านออฟฟิศเมทในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะการจัดส่งได้ทันที บริการ Printing Solution รับผลิตงานพิมพ์ครบวงจร สื่ออิงก์เจ็ต ไวนิล รับพิมพ์นามบัตร ตรายางสื่อสิ่งพิมพ์พร้อมโครงอุปกรณ์งานอีเวนต์ต่างๆ บริการรับผลิตของพรีเมียม และรับชำระบิลและค่าสาธารณูปโภค

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ การเปิดตัวเว็บไซต์ Microsite Furniture สั่งซื้อสินค้าออฟฟิศเฟอร์นิเจอร์ หลังจากที่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเก้าอี้สำนักงานแบรนด์เลซี่บอยและเซอร์ต้า รวมถึงกิจกรรมการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์

สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายเติบโตขึ้นจากปีก่อน 10% หรือมียอดขายรวม 6,800 ล้านบาท และตั้งเป้าว่าในปี 2559 จะมียอดขาย 7,000-8,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้นั้นจะมาจากการขายผ่านหน้าร้านมีสัดส่วน 50% การขายผ่านช่องทางแค็ตตาล็อกเซล, คอลเซ็นเตอร์ 40% และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์ 10% ซึ่งต่อไปคาดว่าแค็ตตาล็อกเซลจะมีบทบาทน้อยลง แต่ช่องทางโมบาย แอพพลิเคชั่นนั้นจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น จากปีที่ผ่านมาโมบายแอพเติบโต 31% ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% ขณะที่ปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนจำนวน 250 ล้านบาท เปิด 9 สาขาใหม่ โดยได้เปิดให้บริการแล้ว 6 สาขา *จำนวน 58 สาขา ส่วนปีหน้าจะเปิดให้บริการ 6 สาขา โดยใช้งบลงทุนใกล้เคียงกับปีนี้               

ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ย 2.5 ครั้ง/เดือน มีการซื้อเฉลี่ยต่อครั้ง 3,000-3,500 บาท/เดือน ซึ่งไม่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าองค์กร ทั้งภาครัฐ เอกชน รวมไปถึงธุรกิจประเภทเอสเอ็มอี โดยมีฐานสมาชิกประมาณ 1 ล้านราย ขณะเดียวกันบริษัทจะเพิ่มสินค้าประเภทเฮาส์แบรนด์เข้ามาจำหน่ายมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วน 13% ภายใน 5 ปีข้างหน้าตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนเป็น 30% หรือ 2,000 รายการ จากปัจจุบันมีสินค้าจำหน่ายรวมทุกประเภท 1.5 หมื่นรายการ

ด้านตลาดรวมอุปกรณ์เครื่องใช้สำนักงานมีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 3-5% บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาด 20% ถือเป็นผู้นำอันดับ 1 เนื่องจากในธุรกิจอุปกรณ์สำนักงานนั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 1 หมื่นรายทั่วประเทศ ซึ่งหากนับรวมสินค้าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน มูลค่าตลาดจะไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นล้านบาท