ยกเว้นภาษีชิ้นส่วนอี85 โครงการฝุ่นตลบ...เหนือเมฆ
เป็นโครงการที่มาแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่สุดโครงการหนึ่ง สำหรับการขอลดภาษีสรรพสามิต รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง อี85 ที่ผลิตในประเทศ
เป็นโครงการที่มาแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่สุดโครงการหนึ่ง สำหรับการขอลดภาษีสรรพสามิต รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง อี85 ที่ผลิตในประเทศ
โดย...ทีมข่าวธุรกิจตลาด
เป็นโครงการที่มาแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ ที่สุดโครงการหนึ่ง สำหรับการขอลดภาษีสรรพสามิต รถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิง อี85 ที่ผลิตในประเทศ ซึ่งได้รับอนุมัติไปในเดือน เม.ย. 2553 ตามมาด้วยโครงการขออนุมัติ ยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ อี85 ที่อนุมัติไปช่วงปลายเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา
เนื่องด้วยเป็นโครงการที่มีการเรียกร้องผ่านมาทางกระทรวงพลังงาน ซึ่งแตกต่างจากการร้องขอมาตรการภาษีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่มักร้องผ่านมาทางกระทรวงอุตสาหกรรม ทำให้โครงการ อี85 ทั้งหมด เป็นโครงการที่ได้รับการอนุมัติไป โดยที่ผู้ประกอบการรถยนต์หลายรายยังได้แต่...งง
นอกจากนี้ การที่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ออกมาเรียกร้องขอให้รัฐบาลลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเพิ่มจาก 8 รายการ เป็น 23 รายการ ยิ่งทำให้เห็นภาพของการเรียกร้องผ่านกระทรวงพลังงานมากขึ้นไปอีก จนเริ่มมีข้อสงสัยตามมาว่า ผู้ที่ร้องขอให้เกิดการลดภาษีนำเข้านี้คือใครกันแน่?
ยิ่งเมื่อมาพิจารณาประกอบกับราคาจำหน่ายปลีกน้ำมัน ที่ถือว่าอยู่ในระดับสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทำให้กระแสข่าวลือที่ว่า มีผู้ประกอบการเอทานอลบางราย ขอให้มีการตรึงเพดานราคาน้ำมัน ให้แตกต่างจาก อี85 ให้มากที่สุด เพื่อให้เชื้อเพลิง อี85 เกิดให้ได้ ยิ่งมีแนวโน้มที่ชัดเจนขึ้น
“ลองดูดีๆ จะเห็นว่าราคาปลีกน้ำมันช่วงนี้ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับราคาน้ำมันดิบ คิดง่ายๆ ต้องย้อนกลับไปดูตอนที่ราคาน้ำมันอยู่ที่ลิตรละกว่า 40 บาท ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ที่ 146-147 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ตอนนี้ราคาน้ำมันดิบต่ำกว่านั้นมาก แต่ราคาขายน้ำมันกลับไม่แตกต่างกันสักเท่าใด เพราะมีการประเมินกันแล้วว่าถ้าราคา อี85 ถูกกว่าน้ำมันธรรมดาต่ำกว่า 30% จะไม่จูงใจให้เกิดการใช้งาน” แหล่งข่าวจากวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผย
จุดเริ่มต้นของการเรียกร้องขอให้ลดภาษีนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อประกอบรถยนต์ที่ใช้ อี85 นั้น ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เล่าให้ฟังว่าในเบื้องต้น ได้ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายยื่นรายชื่อชิ้นส่วนที่ต้องการขอให้ยกเว้นภาษีนำเข้าทั้งหมดเข้ามา โดยในเบื้องต้นมีการยื่นเสนอเข้ามาถึง 31 รายการ
ก่อนที่จะผ่านไปที่ประชุมของกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้ทำการตัดทอนชิ้นส่วนที่ซ้ำซ้อนกันออกไปจนเหลือเพียง 23 รายการ ยื่นเสนอให้กับกระทรวงการคลัง โดยกระทรวงการคลังได้พิจารณาพร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเข้าไปช่วยพิจารณา จนท้ายที่สุดสรุปว่าจะลดให้เพียง 8 รายการเท่านั้น
“หลักการง่ายๆ ที่เราใช้ในการพิจารณาก็คือ หนึ่ง จะต้องเป็นชิ้นส่วนที่มีการสัมผัสกับน้ำมันจริง และสอง จะต้องเป็นชิ้นส่วนที่ไม่สามารถใช้กับชิ้นส่วนเพื่อประกอบรถยนต์อื่นๆ อย่างเช่น อี20 ได้ อะไรที่ไม่ชัดเจนก็จะตัดออก เหมือนกับที่ชิ้นส่วนไฮบริดที่ได้ไป 6 ชิ้น ก็มาจากหลักการเดียวกัน คือจะต้องเป็นชิ้นส่วนที่แสดงความเป็นไฮบริดโดยเฉพาะเท่านั้น” แหล่งข่าวเปิดเผย
ทั้งนี้ มีรายงานว่าสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ที่อาสาเป็นคนกลางในการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ มีความเห็นที่ค่อนข้างจะชัดเจนว่า จะเสนอให้ลดเพียง 8 ชิ้น ตามที่กระทรวงการคลังเสนอมา เนื่องจากมองว่ามีชิ้นส่วนที่มีความจำเป็นเพียงเท่านั้น
ขณะเดียวกัน ก็มองว่าโครงการ อี85 นั้น ได้รับการพิจารณาในส่วนของการลดภาษีสรรพสามิตไปก่อนหน้านี้แล้ว 3% ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีการสนับสนุน ด้วยการใช้เงินกองทุนภาษีน้ำมันสนับสนุนมาโดยตลอดอยู่แล้ว จึงไม่น่าจะต้องมีความจำเป็นที่จะให้การสนับสนุนด้วยการลดภาษีทั้ง 23 รายการ ตามที่มีการร้องขอ
จึงต้องมาดูว่า ก่อนที่จะมีการเสนอเข้าที่ประชุม ครม.วันที่ 6 ก.ค. ในสัปดาห์นี้ ตามที่กำหนดไว้ กระทรวงพลังงานและผู้เรียกร้องตัวจริงสำหรับโครงการนี้จะมีการกระทำอะไรออกมาหรือไม่ และฝุ่นจะตลบอบอวลไปมากกว่าที่เป็นอยู่หรือเปล่า!!!