posttoday

ครม.เห็นชอบกม.ตั้งกระทรวงดิจิทัลฯ

16 มิถุนายน 2558

ครม.เห็นชอบปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจดิจิทัล ยุบรวมร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับมารวมเป็นฉบับเดียว

ครม.เห็นชอบปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจดิจิทัล ยุบรวมร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 3 ฉบับมารวมเป็นฉบับเดียว

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่าที่ประชุมฯมีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. .... ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วและให้ดำเนินการในการรวมกฎหมายที่เกี่ยวข้องจำนวน 3 ฉบับได้แก่ ร่าง พ.ร.บ.คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. ... ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล พ.ศ. ... และร่าง พ.ร.บ.กองทุนพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล พ.ศ. ... เป็นฉบับเดียวกันและให้แก้ไขชื่อเป็นร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. ...

ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.เศรษฐกิจดิจิทัลได้มีการนำเสนอต่อที่ประชุม ครม.มาแล้ว นายกรัฐมนตรีได้ให้ข้อสังเกตว่าการมีกองทุนฯใน พ.ร.บ. นี้ ควรพิจารณาความเหมาะสมไม่เกิดความซ้ำซ้อนกับกองทุนอื่นๆที่มีการจัดตั้งมาก่อน รวมทั้งมีข้อสังเกตว่าให้มีการคำนึงถึงการนำเงินกองทุนไปใช้เพื่อสนับสนุนกิจการต่างๆทั้งการให้กู้ยืมแบบมีดอกเบี้ยและการให้เปล่าแบบไม่มีดอกเบี้ย คณะกรรมการกฤษฎีกาจึงนำข้อสังเกตต่างๆไปปรับปรุงและให้กฎหมายมีความกระชับมากขึ้นจึงนำกฎหมายทั้งสามฉบับมารวมกัน

สำหรับสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้แก่ 1. กำหนดให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมขึ้นตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติดังกล่าว

2. กำหนดให้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างน้อยต้องมีในเรื่องตามที่ได้กำหนดไว้

3.กำหนดให้มีคณะกรรมการดิจิทัลฯ มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลฯ เสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อกำหนดนโยบายและทิศทางด้านการเงิน การคลัง การลงทุน มาตรการทางภาษีและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับหรือเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาดิจิทัลฯ  โดยในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดิจิทัลฯ  ให้มีคณะกรรมการเฉพาะเรื่องเพื่อช่วยดำเนินการได้

4.กำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลฯ เป็นส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรมในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด

5.กำหนดให้จัดตั้งกองทุนพัฒนาดิจิทัลฯ ขึ้นในสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลฯ  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลฯ  และให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ รับผิดชอบในการบริหารกองทุนให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุน และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด

6.กำหนดให้มีสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลฯ  มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมและนวัตกรรมดิจิทัล พัฒนาให้เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างหรือเผยแพร่เนื้อหาผ่านทางสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความมั่นคงของประเทศ และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด 

7.กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลทำหน้าที่กำกับและติดตามการดำเนินงานของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสำนักงานฯ ตลอดจนเพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และให้มีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนด

8.กำหนดให้แผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลจัดทำขึ้นต้องสอดคล้องกับนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และเมื่อคณะกรรมการกำกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลให้ความเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวแล้ว ให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลปฏิบัติตามแผนดังกล่าวโดยเคร่งครัด ในกรณีที่การปฏิบัติตามแผนดังกล่าวอยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานอื่นให้เสนอแผนยุทธศาสตร์นั้นต่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเพื่อให้ความเห็นชอบและเมื่อคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมให้ความเห็นชอบแล้วให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลแจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อทราบและนำไปปฏิบัติให้สอดคล้องกัน

9.กำหนดให้ในวาระเริ่มแรกคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมีองค์ประกอบเฉพาะกรรมการโดยตำแหน่งแต่ไม่เกินเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และกำหนดให้ในระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้อำนวยการตามพระราชบัญญัตินี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่งตั้งผู้ที่เห็นสมควรให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการชั่วคราว ซึ่งต้องไม่เกินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ นอกจากนี้ได้กำหนดให้ยุบสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) และโอนพนักงานและลูกจ้างของสำนักงานฯ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ไปเป็นพนักงานหรือลูกจ้างของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นการชั่วคราว