posttoday

กรุงเทพฯรั้งอันดับหนึ่งน่าเที่ยวเอเชีย พร้อมขึ้นแท่นอันดับสองของโลก

03 มิถุนายน 2558

มาสเตอร์การ์ดเผยผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกปี 2558 กรุงเทพฯ ติดอันดับหนึ่งของเอเชีย และอันดับสองของโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 18.24 ล้านคน ตามติดอันดับหนึ่งอย่างกรุงลอนดอนไม่ห่าง

มาสเตอร์การ์ดเผยผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกปี 2558 กรุงเทพฯ ติดอันดับหนึ่งของเอเชีย และอันดับสองของโลก 

มาสเตอร์การ์ดเผยผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกปี 2558 กรุงเทพฯ ติดอันดับหนึ่งของเอเชีย และอันดับสองของโลก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเยือนและพักค้างคืนเป็นจำนวนสูงถึง 18.24 ล้านคน ตามติดอันดับหนึ่งอย่างกรุงลอนดอนไม่ห่างนัก เมืองอื่นๆ ในเอเชียที่เข้าสู่สิบอันดับต้น ได้แก่ สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ โซล และฮ่องกง โดยอยู่ในลำดับที่ เจ็ด แปด เก้า และสิบ ตามลำดับ

การสำรวจดัชนีสุดยอดเมืองจุดหมายปลายทางของโลกเป็นการจัดอันดับ 132 เมืองที่มีผู้มาเยือนสูงสุดทั่วโลก ด้วยความมุ่งหวังที่จะให้ได้มาซึ่งข้อมูลเบื้องลึกของรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวของผู้คนทั่วโลก ดัชนีนี้จึงมิได้เป็นเพียงการเฝ้าตามทิศทางการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังช่วยให้เกิดความเข้าใจในวิถีการเคลื่อนย้ายของผู้คนทั่วโลก และความสำคัญของเมืองต่างๆในฐานะบ้านเกิดเมืองนอน สถานที่ท่องเที่ยวและแรงขับเคลื่อนสู่การเจริญเติบโต

กรุงเทพฯ และกรุงลอนดอนรั้งตำแหน่งต้นๆ มาตลอด 5 ปีของการสำรวจดัชนีนี้ และการแข่งขันจะยังคงต่อเนื่องต่อไปในขณะที่จำนวนผู้มาเยือนกรุงเทพฯ ฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบในปี 2557

ตัวเลขคาดการณ์ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนและพักค้างคืนในเมืองต่างๆ สิบอันดับต้น ได้แก่

1.            ลอนดอน – 18.82 ล้านคน
2.            กรุงเทพฯ – 18.24 ล้านคน
3.            ปารีส – 16.06 ล้านคน
4.            ดูไบ – 14.26 ล้านคน
5.            อิสตันบูล – 12.56 ล้านคน  
6.            นิวยอร์ค – 12.27 ล้านคน
7.            สิงคโปร์ – 11.88 ล้านคน
8.            กัวลาลัมเปอร์ – 11.12 ล้านคน
9.            โซล – 10.35 ล้านคน
10.          ฮ่องกง – 8.66 ล้านคน

นอกจากนี้  7 ใน 10 ของเมืองที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดตลอดช่วง 6 ปีที่ผ่านมาอยู่ในเอเชีย โดยมีโคลัมโบเมืองหลวงของศรีลังกาเป็นจ่าฝูง ตามมาด้วยเฉิงตูเมืองหลวงแห่งมณฑลเสฉวนของจีน

ตัวเลขคาดการณ์ของเมืองที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุดสิบอันดับต้น ได้แก่

1.            โคลัมโบ – 21.1%
2.            เฉิงตู – 20.7%
3.            อาบูดาบี – 20.4%
4.            โอซาก้า – 19.8%
5.            ริยาด – 18.0%    
6.            ซีอาน – 16.2%
7.            ไทเป – 14.9%
8.            โตเกียว – 14.6%
9.            ลิมา – 13.9%
10.          นครโฮจิมินห์ – 12.9%

สำหรับเมืองทั้ง 5 แห่งในเอเชียตะวันออกนั้น การเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงของจำนวนนักท่องเที่ยวเป็นผลมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมหาศาลที่เดินทางท่องเที่ยวทั้งในประเทศและนอกประเทศ ในขณะเดียวกัน จำนวนนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในศรีลังกานั้น เป็นผลมาจากสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนานได้จบลงแล้ว

นายแมทธิว ไดรฟ์เวอร์ ประธานประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มาสเตอร์การ์ด กล่าวว่า การท่องเที่ยวมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นในด้านการสร้างรายได้และการจ้างงานในหลายประเทศในเอเชีย สะท้อนให้เห็นถึงความน่าหลงไหลของเอเชียที่เพิ่มมากขึ้นควบคู่ไปกับพัฒนาการที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ของภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจอาเซียน จีน และอินเดีย

ในขณะที่นานาประเทศต่างต้องแข่งขันกันเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวและเสริมประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้มาเยือนในประเทศของตน มันจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่รัฐบาลและหน่วยงานท่องเที่ยวทั้งหลายต้องรู้จักลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเมืองที่ชาญฉลาดขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่ยังคงอนุรักษ์และพิทักษ์มรดกต่างๆ ของเมืองไว้ ไม่ว่าจะเป็น อนุสรณ์สถานต่างๆไปจนถึงขนบธรรมเนียมประเพณีที่ทำสืบต่อกันมาช้านานที่ทำให้เมืองของตนคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้ ส่งผลให้เอเชียสามารถสร้างและรักษาความเป็นตัวตนของเมืองระดับโลกที่มีชีวิตชีวาและน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งจะกลายมาเป็นการสร้างแบรนด์สำคัญที่จะดึงดูดผู้คนมาสู่ภูมิภาคนี้

นายยูวา เฮดริค-หว่อง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และประธานสถาบันที่ปรึกษาด้านวิชาการ ประจำศูนย์มาสเตอร์การ์ดเพื่อการเติบโตแบบองค์รวม กล่าวว่า เมื่อเทียบกับพื้นฐานการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่โดยรวมแล้วดูอ่อนแรงและธุรกิจส่งออกที่ไม่กระเตื้องขึ้น ภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่สดใสจึงเป็นเสมือนแรงอัดฉีดที่ทรงพลังเพื่อสร้างงานและรายได้ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

อย่างที่เห็นได้ในดัชนีล่าสุดจากผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกของมาสเตอร์การ์ด เมืองต่างๆในเอเชียรั้งตำแหน่งต้นๆ ในการดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้บินมาเยือน และที่น่าตื่นใจไปกว่านั้น คือ เมืองที่จำนวนนักท่องเที่ยวเติบโตเร็วที่สุดในโลกในสิบอันดับต้นนั้นอยู่ในเอเชียแปซิฟิกถึงเจ็ดเมืองด้วยกัน ซึ่งมันเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญว่าการเติบโตจะยังคงโดดเด่นต่อเนื่องต่อไปในอีกหลายปีข้างหน้า

นางจุฑาพร เริงรณอาษา รักษาการผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ระบุว่า ชุมชนเศรษฐกิจอาเซียนที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นโอกาสครั้งสำคัญสำหรับประเทศไทยที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านการท่องเที่ยวของประเทศร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ จากผลสำรวจสุดยอดจุดหมายปลายทางของโลกโดยมาสเตอร์การ์ดนั้น ชี้ให้เห็นว่ากรุงเทพฯ สามารถรักษาความแข็งแกร่งของเราในเวทีโลกไว้ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งในนี้เป็นผลมาจากการท่องเที่ยวในภูมิภาคของกลุ่มประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเอง อย่างสิงคโปร์ และกัวลาลัมเปอร์

ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตของทั้งภูมิภาค และเป็นการปูทางให้ประเทศไทยได้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรารู้สึกภาคภูมิใจไปกับความสำเร็จนี้ และความร่วมมือที่เรามีมานานเกือบทศวรรษกับทางมาสเตอร์การ์ด และหวังว่าจะได้ร่วมงานกันอีกต่อไปเพื่อกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาเยือนประเทศไทยและท่องเที่ยวทั่วไทย