posttoday

"ธีระชัย"ค้านคลังขายหุ้นโปะขาดทุนจำนำข้าว

27 พฤษภาคม 2558

อดีตรมต.คลังในรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" ค้านคลังขายหุ้นโปะหนี้จำนำข้าว ชี้เสียภาพพจน์-ไม่คุ้ม ระบุ คลังสามารถบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาทได้ไม่มีปัญหา

อดีตรมต.คลังในรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" ค้านคลังขายหุ้นโปะหนี้จำนำข้าว ชี้เสียภาพพจน์-ไม่คุ้ม ระบุ คลังสามารถบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาทได้ไม่มีปัญหา

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว  ว่า ข่าวว่ากระทรวงการคลังจะขายหุ้นในมือ เพื่อโปะขาดทุนจำนำข้าว

แนวคิดนี้ผมเคยเขียนไว้ในเฟซบุ๊กในปี 2557 ตั้งแต่ก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาล  แต่ข้อมูลที่ได้เพิ่มเติม ทำให้ผมเปลี่ยนใจแล้ว บัดนี้ ผมไม่เห็นด้วย เพราะ
1 เนื่องจากจะได้เงินไม่มาก จึงไม่คุ้มกับผลกระทบต่อภาพพจน์ นักวิเคราะห์สากลอาจจะพาลเข้าใจผิดว่า ฐานะประเทศร่อแร่เต็มที
2 ประชาชนจะเข้าใจไขว้เขวได้ ว่ากระทรวงการคลังไม่จริงใจที่จะเรียกให้ผู้ที่ก่อความเสียหายต้องชดใช้ก่อน
3 การบริหารเงินกู้ระดับ 7-8 แสนล้านบาท กระทรวงการคลังสามารถทำได้ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว
4 การจะขายหุ้นใดหรือไม่ เมื่อใด ควรพิจารณาต่างหากจากการบริหารขาดทุนจำนำข้าว การเอาสองเรื่องมาปนกัน ก่อความเข้าใจผิด
5 การจะขายหุ้น ควรจะมีการศึกษา และมีการตั้งคำถามใหญ่ ว่ารัฐบาลควรจะถือหุ้นอยุ่ในธุรกิจเอกชนหรือไม่ การถือต่อไป มีข้อดีข้อเสียอย่างไร

รัฐบาลยังควรมีรัฐวิสาหกิจ หรือให้เอกชนทำกันเองทั้งหมดเหมือนบางประเทศ

ต้องตอบโจทย์ในภาพใหญ่เสียก่อน

ผมขอเพิ่มเติมว่า หนี้เจ็ดแสนล้านนี้ ควรจะมีกำหนดที่จะตั้งงบประมาณ เพื่อลดเงินต้นทุกปีเป็นกำหนดที่ประกาศล่วงหน้า และเพื่อผูกมัดรัฐบาลในอนาคตระดับหนึ่ง เพราะภาระนี้ ไม่ควรปล่อยให้เป็นปัญหาของลูกหลาน แต่ทุกรัฐบาล ตั้งแต่นี้ไป ต้องมีแผนประหยัด และหารายได้ เพื่อเคลียร์ปัญหานี้ อย่างเป็นระบบ การประกาศกำหนดการลดเงินต้นล่วงหน้า จะทำให้มีวินัยการคลังที่ดีในอนาคต และจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่า กรณีเกิดมีนโยบายที่สร้างความเสียหาย ประชาชนจะต้องเข้ามาร่วมรับภาระประชาชนจะได้เข้าใจ ผลได้ผลเสียทางการเมืองชัดเจนขึ้น ถึงแม้ส่วนหนึ่ง กระทรวงการคลังจะต้องหาทางให้บุคคลต้นเหตุชดใช้ก็ตาม การไม่ขายทรัพย์สิน แต่กำหนดคืนหนี้ล่วงหน้า จะทำให้ประชาชนตระหนักว่า นโยบายที่สร้างความเสียหาย จะก่อหนี้ให้แก่ประชาชนทุกคน โดยอัตโนมัติ