posttoday

ขายตรงเร่งฟื้นภาพ หนีแชร์ลูกโซ่ป่วนตลาด

27 เมษายน 2558

ธุรกิจขายตรงนั้นแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังโดนหลอก โดยเอาธุรกิจขายตรงเข้าไปพัวพัน

โดย...โชคชัย สีนิลแท้

จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาได้ส่งผลกระทบกับกำลังซื้อ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจขายตรงที่ตามปกติกำลังซื้อจะดีขึ้นสวนกระแส เนื่องจากผู้คนต้องการมีรายได้เสริมอาชีพประจำ แต่ที่ผ่านมาโดนธุรกิจนอกระบบอย่างแชร์ลูกโซ่ได้เข้ามาป่วนตลาด ซึ่งทำให้ภาพลักษณ์ของธุรกิจดูย่ำแย่ลง โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่รู้จักธุรกิจขายตรงว่าต่างจากแชร์ลูกโซ่อย่างไร

ภคพรรณ ลีวุฒินันท์ นายกสมาคมการขายตรงไทย เปิดเผยว่า สมาคมจะต้องเร่งให้ความรู้ว่าธุรกิจขายตรงนั้น แตกต่างจากธุรกิจนอกระบบหรือแชร์ลูกโซ่มากขึ้น โดยจะร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อทำการประชาสัมพันธ์โดยเน้นผ่านสื่อในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น เนื่องจากตรงกับกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่อาจจะไม่ความรู้ว่าขายตรงต่างจากแชร์ลูกโซ่

“ที่ผานมาสมาคมได้ประชาสัมพันธ์มาตลอด ว่าธุรกิจขายตรงนั้นแตกต่างจากแชร์ลูกโซ่ แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังโดนหลอก โดยเอาธุรกิจขายตรงเข้าไปพัวพัน สิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณาคือ ธุรกิจขายตรงจะต้องมีสินค้าขาย มีแผนการตลาดชัดเจน และบริษัทที่จะร่วมดำเนินธุรกิจมีตัวตนที่ชัดเจน อย่าหวังกับผลตอบแทนที่จะได้มาอย่างง่ายดาย หากไม่ดำเนินธุรกิจอย่างแท้จริง เพราะทุกวันนี้การหลอกลวงจะพัฒนามาในรูปแบบใหม่ๆ ที่อิงกับเทคโนโลยีมากขึ้น” ภคพรรณ กล่าว 

พงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจการขายตรงในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ว่ามีอัตราการเติบโตประมาณ 3-5% จากที่ผ่านมาจะมีอัตราการเติบโตสูงถึง 7% ต่อปี เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา ส่งผลให้กำลังซื้อของผู้บริโภคนั้นลดลงตามไปด้วย ขณะเดียวกันปัญหาแชร์ลูกโซ่ที่กลับมาระบาดหนัก

อย่างที่ผ่านมาคือ บริษัท ยูฟัน สโตร์ สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเข้ามาปักหลักตั้งสำนักงานใหญ่ในประเทศไทย ย่านบางนา โดยมีการออกสกุลเงินเอง เรียกว่ายูโทเคนใช้แทนสกุลเงินปกติ ได้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ธุรกิจขายตรง 

“ปัจจุบันแชร์ลูกโซ่ต่างๆ พยายามที่จะพัฒนาการให้ระบบของตนถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นการที่แต่ละบริษัทมีสินค้ามานำเสนอขาย ไม่ใช่คำตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ระบบขายตรง แต่ถ้าหากมีการชักชวนเพื่อให้นำเอาเงินไปลงทุนแล้วบอกว่ามีผลตอบแทน นั่นแสดงให้เห็นว่าระบบดังกล่าวเริ่มมีความเสี่ยง ปัจจุบันยังมีบริษัทขายตรงในรูปแบบแชร์ลูกโซ่อีกหลายบริษัท แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ของยูฟันฯ ขึ้นมา ก็อาจจะเงียบไประยะหนึ่ง แต่ก็รอเวลาที่จะกลับมา” พงศ์พสุ กล่าว

ในส่วนของกิฟฟารีนฯ เอง เนื่องจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว ส่งผลให้บริษัทชะลอการสร้างสำนักงานสาขาที่ จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ 1 ไร่ มูลค่าการลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี

สำหรับแผนการขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศ ภายในไตรมาส 4 จะรุกตลาดประเทศอินโดนีเซีย ด้วยการร่วมทุนกับนักธุรกิจใน
ท้องถิ่น เพื่อก่อตั้งบริษัท พีที กิฟฟินโด ขึ้นมาดำเนินธุรกิจขายตรงในประเทศดังกล่าว ซึ่งถือเป็นประเทศที่ 5 ที่บริษัทขยายไปยังต่างประเทศ จากก่อนหน้านี้ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา พม่า ลาว และมาเลเซีย ซึ่งประเทศอาเซียนสภาพเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตที่ดี

“สาเหตุที่เรารุกตลาดอินโดนีเซีย เพราะเป็นประเทศที่มีประชากรมากถึง 200 ล้านคน และยอมรับในแบรนด์สินค้าไทย การรุกตลาดต่างประเทศในครั้งนี้จะทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 5,800-5,900 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 10% จากปี 2557 ที่มียอดขายรวม 5,400 ล้านบาท” พงศ์พสุ กล่าว

สุเทพ ยืนยงค์วิทยากุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิวไลฟ์ เวิลด์ไวด์ ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงนิวไลฟ์ กล่าวว่า กรณียูฟันฯ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมขายตรง และคาดว่าตลาดจะสามารถเติบโตได้ 3-5% หรือรักษามูลค่าแตะ 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่ค่อยดีมากนัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมากกว่า

ทั้งนี้ การที่ สคบ.ดำเนินคดีกับบริษัท ยูฟัน สโตร์ ช่วยทำให้ภาพลักษณ์ขายตรงดีขึ้น ทำให้ประชาชนทั่วไปรับรู้และเลือกที่จะเข้าสู่ธุรกิจขายตรงได้อย่างถูกต้อง มากกว่าจะมองเรื่องผลตอบแทนสูงเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันก็สะท้อนว่ากฎหมายขายตรงของไทยมีความแข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบันยังมีบริษัทที่ดำเนินธุรกิจขายตรงผิดกฎหมายหรือเป็นแชร์ลูกโซ่ยังมีอยู่อีกมาก

สุชาดา ธีรวชิรกุล กรรมการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมธุรกิจการขายตรงไทย กล่าวว่า สมาคมเตรียมจัดงานวันเกียรติยศนักขายตรงไทยปี 2558 เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมที่เชิดชูเกียรตินักขายตรงที่มีจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ เพื่อเป็นต้นแบบให้กับวงการนักธุรกิจอิสระ ซึ่งงานจะจัดขึ้นวันที่ 28 มิ.ย. ที่เมืองทองธานี โดยจะมีนักขายตรงดีเด่นจำนวน 74 รหัส รวม 108 ท่าน กิจกรรมเหล่านี้คือสิ่งที่บรรดาผู้ประกอบการขายตรงมั่นใจว่าจะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ธุรกิจขายตรงไทย