posttoday

บลูโค้ทเทกโอเวอร์ เสริมซีเคียวริตี้ครบวงจร

17 เมษายน 2558

เทรนด์ซีเคียวริตี้หรือระบบรักษาความปลอดภัยในปีนี้ เห็นถึงการเชื่อมโยงกับการใช้มัลแวร์ปล่อยเข้ามาในระบบมากขึ้น

โดย...ณัฏฐ์ธยาน์ สุทธิเจริญ

การใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นั้น ความเสี่ยงจากการติดมัลแวร์หรือไวรัสไม่ได้มาจากอีเมลหรือฟิชชิ่งเสมอไป แม้กระทั่งการเชื่อมต่อเพื่อเข้าใช้งานผ่านระบบโครงข่ายก็สามารถติดไวรัสได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ยังพบว่าเทรนด์ซีเคียวริตี้หรือระบบรักษาความปลอดภัยในปีนี้ เห็นถึงการเชื่อมโยงกับการใช้มัลแวร์ปล่อยเข้ามาในระบบมากขึ้น ซึ่งกลุ่มเอสเอ็มอีและธุรกิจรายย่อยอาจเสี่ยงมากที่สุด

แมทเทียส เย๋า ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัทบลูโค้ท ซิสเต็มส์ อิงค์ กล่าวว่า เทรนด์ซีเคียวริตี้ในปีนี้ ประกอบด้วย การรับส่งข้อมูลแบบเข้ารหัสจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมัลแวร์ก็จะซ่อนตัวอยู่หลังการเข้ารหัส, มัลแวร์ยังถูกแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบของแบนเนอร์และโฆษณา, ความนิยมจากการใช้งานมือถือทำให้เกิดซอฟต์แวร์ที่มีความเสี่ยง, ธุรกิจเอสเอ็มอีและหน่วยงานเล็กๆ ของภาครัฐมีความเสี่ยงจะเจอมัลแวร์เรียกค่าไถ่

อีกเทรนด์ที่ต้องเฝ้าระวังคือ การใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่เพิ่มมากขึ้น จะทำให้กลายเป็นเป้าโจมตีของมัลแวร์มากขึ้น รวมไปถึงซอฟต์แวร์ที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนตัวจะเพิ่มจำนวนขึ้น และจะมีการยอมจ่ายเพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้

ทั้งนี้ บลูโค้ทได้เข้าซื้อบริษัทด้านความปลอดภัยเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 10 บริษัท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้ความปลอดภัยแบบเอนด์พอยต์หรือการเชื่อมต่อที่มีความเสี่ยง เพราะซอฟต์แวร์เดิมที่มียังไม่รองรับความปลอดภัยด้านนี้ ถือว่าเป็นการเข้ามาเสริมด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้น

ปัจจุบันบลูโค้ทมีลูกค้าในประเทศไทยประมาณ 600 ราย ที่ใช้โซลูชั่นของบริษัทอยู่แล้ว แบ่งเป็น ภาครัฐ 60% และเอกชน 40% และมีแผนจะขยายไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้การใช้งานทั่วถึงและแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม

อีกประเด็นสำคัญที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง คือ การเสนอแนะให้ลูกค้าได้ทราบว่ายังมีภัยคุกคามอีกจำนวนมากที่มองไม่เห็นและถูกแฝงเข้ามาในองค์กร แม้ว่าปัญหาการโทรศัพท์เข้ามาหลอกให้โอนเงินยังคงเป็นปัญหาหลัก แต่การใช้งานสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียที่เพิ่มมากขึ้น ความเสี่ยงก็เกิดขึ้นมากเช่นกัน

สำหรับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย บลูโค้ทมีรายได้เติบโต 20% มาจากกลุ่มธุรกิจสถาบันการเงิน ซึ่งหลังการกระตุ้นนโยบายดิจิทัลอีโคโนมีของภาครัฐในปีนี้ คาดว่าตลาดโดยรวมน่าจะเติบโตเพิ่มมากขึ้น และบริษัทมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้นถึง 40%

“รายได้ที่เพิ่มเข้ามาจากการกระตุ้นของภาครัฐจะมาจากโปรเจกต์ใหญ่กับภาครัฐ แต่หากภาครัฐยังไม่สรุปเงื่อนไขงานที่ตกลงกันได้ บริษัทก็ยังคงมีรายได้คาดการณ์ประมาณ 20% ตามเดิม”

พร้อมกันนี้ ล่าสุดได้เปิดตัว 2 โซลูชั่นใหม่เสริมทัพระบบความปลอดภัยครบวงจร คือ “Blue Coat Advanced Threat Protection” เพื่อเชื่อมช่องว่างการปฏิบัติงานในแต่ละวัน พร้อมจำกัดเหตุร้ายและแก้ปัญหาระหว่างหน่วยงานรักษาความปลอดภัยต่างๆ และ “Blue Coat Content Analysis System” เน้นการวิเคราะห์มัลแวร์ช่วยป้องกันภัยคุกคามขั้นสูงที่เกตเวย์อินเทอร์เน็ต