เกษตรฯยันยางในสต็อกมีคุณภาพขายได้
ปีติพงศ์ ยันยางพาราในสต็อก2.1 แสนตันมีคุณภาพ-ขายได้ในราคาตามสัญญา ยึดราคา 63.56 บาทต่อกก.
ปีติพงศ์ ยันยางพาราในสต็อก2.1 แสนตันมีคุณภาพ-ขายได้ในราคาตามสัญญา ยึดราคา 63.56 บาทต่อกก.
นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯเปิดเผยถึงความคืบหน้าการขายยางในสต็อก2.1แสนตันให้กับเอกชนจีนว่าได้หารือกับนายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯซึ่งดูแลในเรื่องสัญญาซื้อขายยาง โดยให้ระบายเพื่อไม่ให้กระทบราคาในประเทศ ซึ่งยืนยันว่ายางในสต็อกเป็นยางที่มีคุณภาพเพราะได้เปิดโกดังตรวจสอบทั้งหมดแล้วขอให้มั่นใจว่าบริษัทจีนจะรับซื้อยางทั้งหมดในตามราคาที่ตกลงไว้ตั้งแต่เดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรฯเปิดเผยภายหลังเข้าที่นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ ว่า เรียกเข้าพบสอบถามถึงกรณีกระแสข่าวการทำสัญญาขายยางในสต็อก 2.1 แสนตันให้กับบริษัทไหหน่าน เป็นเอกชนจีน ที่อาจทำให้รัฐบาลไทยเสียเปรียบว่า เรื่องนี้ตนยืนยันว่ายังยึดราคาที่ทำสัญญาขายตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย.57 ในราคา 63.56 บาทต่อกก.ในส่วนยางแผ่นรมควันชั้น3 และยางSTR20ในราคา55.50 บาท และเป็นค่าดำเนินการในอัตราที่ 3.30บาทต่อกก. ส่วนการปรับลดราคาให้ยึดตามคุณภาพเป็นหลัก โดยทั้งหมดยืนยันว่าราคาที่ขายยางคุณภาพต่ำสุดจะไม่ต่ำกว่า 50.50 บาทต่อกก. ซึ่งตามกรอบนโยบายให้ดำเนินการตามแผนดังกล่าว โดยได้เรียนให้นายปีติพงศ์ รับทราบแล้ว
นายอำนวย กล่าวถึงในส่วนเอกสารแนบท้ายสัญญาในเรื่องกำหนดคุณภาพยางจะมีการปรับลดราคาตามเกรดของยางและให้ยึดตามราคาที่ลงนามในหนังสือเจตนา หรือ Letter Of Intention เมื่อวันที่ 13 ต.ค.57 โดยกำหนดราคาขายจรืง 50.95 บาทต่อกก.นั้นตนไม่ทราบมาก่อนเพราะเพิ่งมารับตำแหน่งในวันที่24 พ.ย.57 ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดในการทำสัญญาซื้อขายยางเป็นการดำเนินการโดยนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรฯเป็นผู้ดูแลมาก่อนตนรับตำแหน่ง
ทั้งนี้ นายอำนวย ยืนยันว่าตนไม่เคยคิดที่จะรับผลประโยชน์หรือทำสัญญาเสียเปรียบ ทั้งนี้ยางได้ส่งให้กับเอกชนจีนบางส่วนแล้วขณะนี้ทางจีนได้เปิดแอลซีใหม่เพื่อซื้อยางอีก8 พันตัน กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการกับองค์การสวนยาง และกรมวิชาการเกษตร ตรวจสอบคุณภาพยางตามจริง ในขณะนี้ราคาเริ่มขยับตัวขึ้นมา62.90 บาทในยางแผ่นรมควันชั้น3 ซึ่งใช้กองทุนรักษาเสถียรภาพราคายางได้เข้าซื้อแล้ว 3 หมื่นกว่าตัน และได้ตกลงขายให้กับรัสเซียอีก 8 พันตัน
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าวว่า ขณะนี้โครงการตจ่ายเงินเยียวยาให้เกษตรกรชาวสวนยางพารา ไร่ละ 1 พันบาทเกษตรกรจำนวน 8 แสนกว่าราย งบประมาณ 8,300 ล้านบาท ล่าสุดได้มีการเบิกจ่ายแล้ว 7 แสนกว่ารายจำนวนเงิน 7 พันกว่าล้านบาท โดยเกษตรกรอีกเกือบ 1 แสนรายยังมีปัญหาทางเอกสาร คาดว่าสิ้นเดือน ม.ค. 2558 จะสามารถเบิกจ่ายได้ทั้งหมด