posttoday

หอการค้าชี้ทางรอดธุรกิจต้องปรับตัว

22 พฤศจิกายน 2557

หอการค้าพร้อมดันเทรนด์ธุรกิจใหม่ ซอฟแวร์ ดิจิทัล แอนิเมชั่น อนุพงษ์เร่งทำผังเมืองเขตศก.พิเศษให้เสร็จใน5เดือน

หอการค้าพร้อมดันเทรนด์ธุรกิจใหม่ ซอฟแวร์ ดิจิทัล แอนิเมชั่น อนุพงษ์เร่งทำผังเมืองเขตศก.พิเศษให้เสร็จใน5เดือน
               
เมื่อวันที่22พ.ย.นายอิสระ วอ่งกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวสุนทรพจน์เปิดการสัมมนา ภายในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 32 ที่จ.เชียงราย ว่า ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่การปฏิรูปประเทศ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่หอการค้าและสมาชิกจะเข้าไปมี ส่วนร่วมในการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ โดยหอการค้าจะบททวนบทบาท ปรับกลยุทธ์ในการทำงาน เพื่อที่จะส่งเสริมภาคธุรกิจให้มีความเข้มแข็ง
               
การทำธุรกิจในช่วงของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในประเทศ รวมถึงการเปลี่ยนที่จะเกิดขึ้นจากภายนอก ได้แก่ การเปิดเสรีทางการค้า การรวมกลุ่มความร่วมทางเศรษฐกิจ การแข่งขันทางการค้าที่รุนแรงมากขึ้น ภาคธุรกิจที่จะอยู่รอดได้จำเป็นต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง ภาคธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเพื่อต่อธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ และเข้าไปมีส่วนร่วมพัฒนาธุรกิจในห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
               
ทั้งนี้ ธุรกิจที่หอการค้าให้ความสนใจที่จะสนับสนุนและพัฒนาให้เข้มแข็งต่อไปในอนาคต ได้แก่ ธุรกิจการบริการด้านการศึกษา ธุรกิจก่อสร้างและออกแบบ ธุรกิจสร้างสรคค์และธุรกิจดิจิทัล เช่น ธุรกิจโฆษณา ธุรกิจรับจัดงาน แอนิเมชั่น อีคอมเมิร์ซและซอฟแวร์ ซึ่งเป็นแนวโน้มของธุรกิจในยุคดิจิทัล อีโคโนมี ที่มีแนวโน้มจะเติบโตต่อไป
               
ขณะที่ภาคการเกษตร  ยังคงเป็นภาคเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย และเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมาก สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้เกิดขึ้นทั้งห่วงโซ่การผลิตจากสินค้าเกษตรขั้นตอน ทั้งพืช ผัก ผลไม้ ประมง และปศุสัตว์ พัฒนาไปสู่อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อาหาร และพลังงานทดแทน ซึ่งนอกจากจะช่วยพัฒนาเศรษฐกิจแล้ว จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อีกด้วย

ด้านการค้าไทยจะได้เปรียบประเทศสมาชิกอาเซียนประเทศอื่นๆ หากมีการปรับปรุงกฎระเบียบทางการค้าให้คล่องตัว พัฒนาระบบการเงินและภาษี เชื่อมโยงโครงข่ายการขนส่งกับประทเศเพื่อนบ้าน และพัฒนาบุคลากรองค์ความรู้ในการทำการค้า การลงทุนระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นชาติแห่งการค้า ในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ ภาคบริการ  ยังเป็นจุดแข็งของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจท่องเที่ยวและการโรงแรม การประชุมแสดงสินค้านานาชาติ รวมถึงธุรกิจบริการและสุขภาพ เช่น โรงพยาบาล คลินิค ธุรกิจบริการเสริมความงาม ซึ่งต้องมีการยกระดับ พัฒนาคุณภาพมาตรฐานให้อยู่ในระดับสากล เพื่อเป็นธุรกิจอนาคตของประเทศไทย
               
พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่า การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ อ.แม่สอด จ.ตาก อ.สะเดา จ.สงขลา จ.สระแก้ว จ.มุกดาหาร และจ.ตราด เชื่อว่ายังคงมีความล่าช้าโดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย คือ การปรับปรุงผังเมือง เนื่องจากเป็นขั้นตอนที่ใช้ระยะเวลานานมาก ซึ่งทางกระทรวงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการทำผังเมืองในพื้นที่เขตเศรษฐกิจให้เสร็จภายใน 5 เดือน โดยเฉพาะผังพื้นที่เฉพาะที่จะใช้ในภาคธุรกิจ การประกอบอุตสาหกรรม
              
ทั้งนี้ การวางผังเมืองจะเป็นหลักให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่อไป เช่น การวางถนน ไฟฟ้า น้ำประปา จึงต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อที่ส่วนอื่นๆ จะสามารถดำเนินโครงการต่อไปได้
               
ขณะเดียวกันผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องมุ่งเน้นการพัฒนาการค้าชายแดน ไม่ใช่แต่จังหวัดที่ติดชายแดนเท่านั้น จังหวัดที่อยู่ภายในเข้ามาก็จำเป็นต้องขยายการค้าเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน และเชื่อมโยงเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้าน
               
"ปัจจุบันทางจังหวัดได้ทำงานอย่างบูรณาการ โดยต้องการให้ภาคเอกชนทำงานวางแผนร่วมกับทางจังหวัด และเพิ่มการค้าขายในอาเซียน โดยนำโอทอปเข้าไปจำหน่ายในภูมิภาค" พลเอกอนุพงษ์ กล่าว