posttoday

โตโยต้าวอนรัฐช่วยกระตุ้นขายรถยนต์

07 ตุลาคม 2557

ผู้บริหารโตโยต้า พบ รมว.อุตสาหกรรม วอนรัฐบาลช่วยกระตุ้นขายรถยนต์ หลังยอดขายในประเทศตก คาดลดลง 20%

ผู้บริหารโตโยต้า พบ รมว.อุตสาหกรรม วอนรัฐบาลช่วยกระตุ้นขายรถยนต์ หลังยอดขายในประเทศตก คาดลดลง 20%

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเปิดโอกาสให้ นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย  เข้าพบว่า  ผู้บริหารโตโยต้า ได้ขอให้ฝ่ายรัฐบาลไทยให้ความช่วยเหลือเพื่อกระตุ้นยอดขายรถยนต์ที่คาดว่าในปีนี้จะลดลงถึง 20% เนื่องจากตลาดภายในประเทศมียอดขายลดลงมาก โดยในรอบ 8 เดือนมียอดขายติดลบถึง 38% ขณะที่ยอดส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 3% ซึ่งคาดว่าในภาพรวมของปีนี้จะมียอดการผลิตรถยนต์โดยรวมจะอยู่ที่ 1.985 ล้านคัน ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 2.1 ล้านคัน  ซึ่งทางกระทรวงฯ มั่นใจว่ายอดผลิตรถปีนี้จะถึง  2 ล้านคันบวกลบไม่เกิน 3 แสนคัน เนื่องจากในช่วงไตรมาสสุดท้ายทุกค่ายรถยนต์จะเร่งทำโปรโมชั่นส่งเสริมยอดขาย

“การที่จะเพิ่มยอดขายในประเทศได้ จะต้องมีการขยายตัวของ จีดีพี ให้สูงกว่าในปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลอยู่แล้วในการผลักดันตัวเลข จีดีพี ให้เพิ่มขึ้น ส่วนในปีหน้ามองว่ายอดขายรถยนต์จะเพิ่มขึ้นกว่าปีนี้ เพราะบ้านเมืองมีความสงบ และภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศจะดีขึ้น” นายจักรมณฑ์ กล่าว

นายจักรมณฑ์ กล่าวว่า ได้แสดงข้อกังกลของฝ่ายไทยต่อผู้บริหารโตโยต้า ในประเด็นที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากญี่ปุ่นจะเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลให้ค่ายรถยนต์ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศลดลง ซึ่งในเรื่องนี้ผู้บริหารโตโยต้าได้ให้สัญญาว่าจะไม่ลดคำสั่งซื้อชิ้นส่วนรถยนต์ภายในประเทศอย่างแน่นอน และในขณะนี้ก็ใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศสูงถึง 80-90% ส่วนการที่โตโยต้าเข้าไปลงทุนในประเทศอินโดนีเซียนั้น ก็เพื่อรองรับตลาดภายในประเทศของอินโดนีเซีย ที่มีประชากรกว่า 200 ล้านคน และยังเป็นการกระจายความเสี่ยงลดการพึ่งพาฐานการผลิตเพียงแห่งเดียว ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการทำธุรกิจ แต่มองว่าจะกลายเป็นผลดีต่อประเทศไทย เพราะไทยเป็นฐานการผลิตเครื่องยนต์ และชิ้นส่วนที่สำคัญต่างๆ ทำให้ยอดการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น  

นอกจากนี้ ผู้บริหารโตโยต้า ยังได้เสนอให้รัฐบาลไทยแก้ไขกฎหมายการจำกัดน้ำหนักรถกระบะที่ในปัจจุบันจำกัดน้ำหนักตัวรถไม่เกิน 1.6 ตัน ให้เพิ่มเป็น 2.2 ตัน เนื่องจากเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่เปลี่ยนไป ทำให้รถกระบะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งหากแก้ไขข้อจำกัดนี้ได้ ก็จะเป็นการขยายตลาดส่งออกได้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยเฉพาะตลาดออสเตรเลียที่ได้ยุบสายการผลิตรถยนต์เปลี่ยนเป็นการนำเข้าแทน ซึ่งตลาดนี้ต้องการรถกระบะที่ขนาดใหญ่และแข็งแกร่งรองรับกับสภาพภูมิประเทศที่ทุรกันดาน โดยในเรื่องการแก้กฎหมายฉบับนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกรมขนส่งทางบก ซึ่งจะประสานงานให้ร่วมแก้ไขปัญหานี้ต่อไป

สำหรับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศของโตโยต้าในรอบ 8 เดือน ลดลงจากปีก่อน 38% โดยมียอดผลิตรวม 579,273 คัน แบ่งเป็นรถกระบะ 276,755 คัน มีสัดส่วน 48% รถยนต์นั่ง 186,535 คัน มีสัดส่วน 32% อีโคคาร์ 81,227 คัน สัดส่วน 14% และอื่นๆ 34,756 สัดส่วน 6% มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย 37% ส่วนยอดส่งออกมีจำนวน 741,382 คัน เป็นการส่งออกรถกระบะ 470,935 คัน มีสัดส่วน 64% รถยนต์นั่ง 270,447 คัน สัดส่วน 36%