posttoday

พณ.ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าโต 4%

16 กันยายน 2557

พล.อ.ฉัตรชัย สั่งดูแลราคาสินค้า ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าขอโต 4% ย้ำมีมาตรการดูแลราคาข้าวรองรับแล้ว

พล.อ.ฉัตรชัย สั่งดูแลราคาสินค้า ตั้งเป้าส่งออกปีหน้าขอโต 4% ย้ำมีมาตรการดูแลราคาข้าวรองรับแล้ว

พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพาณิชย์ว่า เร็วๆนี้ จะเชิญผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคมาหารือถึงแนวทางความร่วมมือในการดูแลราคาสินค้า เพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งหลังจากการหารือแล้วจะทำให้ทราบว่าควรต่ออายุมาตรการตรึงราคาสินค้าเพิ่มเติม จากเดิมที่มาตรการขอความร่วมมือตรึงราคาสินค้าจะสิ้นสุดมาตรการ 30 พ.ย.นี้

“การต่ออายุมาตรการหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์ก่อน โดยจะเรียกผู้ประกอบการสินค้ามาคุย เพื่อสร้างความเข้าใจ ซึ่งยอมรับว่าราคาสินค้ามีความผันผวน แต่อยากให้ทุกคนนึกถึงผลประโยชน์ของชาติ ยืนยันว่าผมไม่ใช่นักการเมือง ไม่มีผลประโยชน์ระหว่างเจรจากับเอกชนแน่นอน” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

สำหรับการดูแลภาคการส่งออก โดยปี 2558 กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายการส่งออกขยายตัว 4% แต่อยากผลักดันให้ตัวเลขส่งออกขยายตัว 10% ซึ่งต้องรอประเมินก่อนว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ ส่วนปีนี้คาดว่าการส่งออกจะเติบโตที่ระดับ 3% กว่าๆ โดยยืนยันไม่มีการปรับเป้าหมายส่งออกที่กำหนดไว้ 3.5% เพราะถือเป็นเป้าทำงาน หากไม่กำหนดเป้าหมาย หากผลักดันอย่างเต็มที่แล้วไม่ถึงเป้าหมาย ก็ไม่เป็นไร

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) เร่งทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะการหาตลาดใหม่ในการส่งออก เพื่อเพิ่มช่องทางการส่งออกมากขึ้น และจะต้องเร่งผลักดันการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน

ขณะที่การดูแลราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าข้าวนั้น ยืนยันว่าจะไม่เน้นการใช้มาตรการแทรกแซง แต่หากจำเป็นต้องแทรกแซงก็จะใช้มาตรการแทรกแซงให้น้อยที่สุด ควรเน้นที่การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้ชาวนามากกว่า โดยเป้าหมายของการดูแลข้าวฤดูกาลใหม่ให้ชาวนานั้น ตั้งเป้าราคาข้าวเปลือกควรอยู่ที่ 8,500-9,000 บาท/ตัน ซึ่งขณะนี้มีมาตรการรองรับในดูแลราคาไว้แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยว่า เพราะจะส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาของตลาด

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ส่วนข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล 18 ล้านตัน ยืนยันว่าไม่มีการหยุดระบาย ยังระบายอย่างต่อเนื่อง แต่จะเป็นช่องทางไหนต้องดูภาวะตลาด ซึ่งขณะนี้ก็มีหลายรูปแบบที่ใช้ในช่องทางการระบายทั้งการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) การขายให้กับเอกชน โดยในช่วงที่ข้าวผลผลิตใหม่ออกมา ก็อาจเน้นขายไปในตลาดต่างประเทศ ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์มีการทำงานร่วมกับเอกชนในการหาตลาดข้าวไว้รองรับข้าวฤดูกาลใหม่ ที่จะผลักดันราคาให้เพิ่มขึ้นทั้งตลาดอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และอิหร่าน ที่ล่าสุดปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้หารือกับประเทศอิหร่านเรื่องการค้า และอาจมีการขายข้าวให้ โดยในเดือนพ.ย.ไทยได้เชิญอิหร่านมาเจรจาซื้อขายข้าวเพิ่มเติม


“ด้านการขายข้าวให้จีน ล่าสุดได้มีการเจรจากับทางคอฟโก ในส่วนสัญญาเดิมที่ได้ตกลงกันไว้ 1 ล้านตัน และได้ส่งมอบไปแล้ว 1 แสนตัน เหลืออีก 9 แสนตัน ได้เจรจาใหม่ ซึ่งได้ก็ได้ผลประโยชน์จากการขายข้าวให้คอฟโกเพิ่มขึ้น”

นอกจากนี้ ในด้านการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ยังคงให้เดินหน้าเจรจาต่อไป เพราะแม้คู่เจรจาบางประเทศ เช่น สหภาพยุโรป (อียู) แจ้งว่าจะไม่เจรจากับไทย แต่คิดว่าการค้ากับการเมือง ต้องแยกออกจากกัน และเรื่องการค้า เชื่อว่าสุดท้ายจะมีการกลับมาเจรจาระหว่างกัน

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันที่ 15 ก.ย. พล.อ.ฉัตรชัย พร้อมด้วยนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช. พาณิชย์ ได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์เป็นวันแรก และได้เชิญผู้บริหารระดับสูง และพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ เข้ารับฟังนโยบายการทำงาน โดยในส่วนของพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงพาณิชย์ พล.อ.ฉัตรชัย ได้เข้ามาสักการะตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งหมาย