อาลีบาบาผงาดเทียบชั้นอีเบย์
อาลีบาบาเปิดไอพีโอสูงสุดในประวัติศาสตร์วอลสตรีท ส่อแววหมดยุคสหรัฐครองตลาดอีคอมเมิร์ซแล้ว
อาลีบาบาเปิดไอพีโอสูงสุดในประวัติศาสตร์วอลสตรีท ส่อแววหมดยุคสหรัฐครองตลาดอีคอมเมิร์ซแล้ว
บลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหว ที่บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง เว็บไซต์ อีคอมเมิร์ซชื่อดังสัญชาติจีนกำลังจะเปิดระดมทุนสหรัฐ โดยมีมูลค่าสูงถึง 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 6.4 แสน ล้านบาท) นับว่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ที่กำลัง จะกลายเป็นการปักหมุดครั้งสำคัญของการยุติการครองความเป็นเจ้าตลาดของธุรกิจอีคอมเมิร์ซเมืองลุงแซม
การก้าวขึ้นมาของอาลีบาบายังเป็นการสร้างสมดุลให้กับตลาดอีคอมเมิร์ซ โลกอีกด้วย นับเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับช่องทางการทำธุรกิจออนไลน์ นอก จากเหนือจากอีเบย์และอะเมซอน ซึ่งเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสัญชาติสหรัฐ
ทั้งนี้ แม้ว่าอาลีบาบาจะมีรายได้ในปี 2013 ที่ 8,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่ารายได้ของอีเบย์และอะเมซอนที่สูงมากกว่าหลายเท่าตัว โดยสูงถึง 1.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และ 7.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ตามลำดับ ทว่าหากคำนวณจากปริมาณการค้าขายในอาลีบาบากลับพบว่ามีมูลค่าสูงถึง 2.48 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมากกว่าอีเบย์ถึง 2 เท่า และมากกว่าอะเมซอนถึง 3 เท่า จึงทำให้ ในความเป็นจริง อาลีบาบานับเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกอีคอมเมิร์ซ
นอกจากนี้ อาลีบาบายังมีความ สำคัญในฐานะสื่อกลางการเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมการผลิตในจีนกับธุรกิจรายย่อยทั่วโลกอีกด้วย
แซม ฮามาเดห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไพรฟโค เว็บไซต์ข้อมูลด้านการเงินแสดงความเห็นว่า อาลีบาบาเติบโตขึ้นมาได้จากการขยายตัวของชนชั้นกลางจีนกว่า 500 ล้านคน ซึ่งกำลังก้าวสู่สังคมบริโภคนิยมแบบตะวันตก
"อาลีบาบานับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอีคอมเมิร์ซและเป็นการสร้างทางลัดข้ามขั้นตอนของพ่อค้าคนกลางและลดความสามารถในการควบคุมการค้าของรัฐบาล" ฮามาเดห์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ อีคอมเมิร์ซจากแดนมังกรรายนี้ก้าวขึ้นมา สู่ตลาดระดับโลก เนื่องจากการเลือกกลยุทธ์การเปิดตลาดที่หลากหลาย อาทิ การสร้างเว็บไซต์เถาเป่าเป็นเว็บไซต์ตลาดอีคอมเมิร์ซที่ใช้ภาษาจีนกลางเพื่อตอบโจทย์คนจีนแตกต่างจากอีเบย์และอะเมซอน ที่เน้นการสร้างศูนย์กลางเพียงศูนย์เดียวก่อนจะกระจายสาขาไปตามภูมิภาคต่างๆ