posttoday

เอกชนชมครม.เศรษฐกิจหน้าตาดี

31 สิงหาคม 2557

นักธุรกิจชมเปาะ ครม.ด้านเศรษฐกิจเจ๋ง เชื่อมั่นขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้

นักธุรกิจชมเปาะ ครม.ด้านเศรษฐกิจเจ๋ง เชื่อมั่นขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้

นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ที่ออกมานั้น เป็นคนมีความรู้ความสามารถ และพร้อมที่จะขับเคลื่อนประเทศ เพราะมีการเตรียมตัว มีแผนขั้นตอนการทำงานมาอยู่แล้ว และเรื่องแรกที่รัฐบาลต้องเร่งทำ คือ การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเบิกจ่ายจากรัฐบาล รวมทั้งการแก้ไขการทำงานให้โปร่งใส ซึ่งเป็นเรื่องที่คนคอยจับตาดูอยู่

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะใช้ยาแรงมากระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่คาดว่าปีนี้จะมีการขยายตัวอยู่ที่ 1.5-2% เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มโงหัวขึ้นแล้ว และหากกลับไปสู่ศักยภาพเดิมตามที่ธนาคารโลกมองไว้ คาดว่าปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาโตที่ระดับ 4% ได้

สำหรับสิ่งที่ต้องติดตามที่เป็นความเสี่ยงจากภายนอก คือ การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน เพราะหากสะดุดจะทำให้เศรษฐกิจโลกสะเทือนไปด้วยและการประกาศลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (คิวอี) ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งควบคุมไม่ได้

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงภายในประเทศมาจากระบบเศรษฐกิจไทยได้รับการกดดันจากหลายเรื่อง เช่น ภาระจากนโยบายประชานิยมจนทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้บินต่ำ และปีหน้าก็ยังมีปัจจัยกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ให้สูงขึ้นอยู่ เช่น ภาระหนี้ครัวเรือน

นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า หน้าตา ครม.ที่ออกมาถือว่าใช้ได้ เพราะ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ถือว่าได้ผู้เข้าใจในระบบเศรษฐกิจเข้ามาขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนที่กังวลว่าจะมีรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจเป็นทหารอยู่หลายกระทรวงนั้น ไม่น่ามีปัญหา เพราะเชื่อว่าแต่ละคนมีความตั้งใจจริงจะเข้ามาแก้ปัญหา

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า รายชื่อ ครม.กระทรวงเศรษฐกิจถือว่าดูดี ไม่ขี้เหร่ ทั้งกระทรวงการคลัง อุตสาหกรรม พลังงาน ท่องเที่ยว พาณิชย์ แม้ว่าบางกระทรวงจะมีทหารมาเป็นรัฐมนตรี แต่ก็มีรัฐมนตรีช่วยที่เป็นข้าราชการเก่ามาช่วยดูองค์ความรู้ด้านต่างประเทศ เพื่อให้งาน|ขับเคลื่อนไปได้

ด้าน นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาพรวม ครม.ชุดนี้ จะเป็นชุดที่ตัดสินใจทำงานได้ทันทีและรู้งาน แต่ก็ต้องรับฟังความเห็นของประชาชนคนรอบข้าง ซึ่งก็มีความหวังว่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้นในเวลา 3-6 เดือนนี้ และถือเป็นช่วงเวลาที่จะพิสูจน์รัฐบาล

ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่จะต้องให้ความสำคัญกับประเด็นเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น กลาง และยาว โดยเฉพาะในระยะสั้นจะต้องหาแนวทางเร่งเครื่องเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพราะเศรษฐกิจไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่คาด ขณะที่ภาคส่งออกก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นตามสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยุโรปและสหรัฐ ซึ่งทำให้คาดว่าส่งออกไทยปีนี้จะขยายตัวได้เพียง 1-1.5% จากเดิมที่คาดว่าจะโต 3%