posttoday

ทอท.สั่งเพิ่มแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ

19 สิงหาคม 2557

ทอท.รับลูกคสช.สั่งปรับแผนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส2 อัดงบ 1.3 หมื่นล้านบาท ผุดอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ

ทอท.รับลูกคสช.สั่งปรับแผนท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส2 อัดงบ 1.3 หมื่นล้านบาท ผุดอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ

นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ การประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)บริษัทท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ฝ่ายบริหารทอท.เตรียมเสนอแผนพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โดยเพิ่มแผนก่อสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท รวมถึงแผนขยายท่าอากาศยานดอนเมือง และแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เพื่อเปิดบริการเชิงพาณิชย์ ให้ที่ประชุมบอร์ดรับทราบเบื้องต้น ก่อนเสนอขอความเห็นชอบจากบอร์ดอีกครั้ง ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้การปรับแผนดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ที่มอบให้กระทรวงคมนาคม ศึกษาพัฒนาระบบการขนส่งทางอากาศเพื่อเชื่อมโยงการเดินทางเข้ากับภูมิภาค รองรับความต้องการเดินทางอากาศของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงการเดินทางของนักท่องเที่ยวคนไทย ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558

แนวทางโครงการก่อสร้างสร้างอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเดิมทีไม่ได้อยู่ในแผนพัฒสุวรรณภูมิระยะ 2 แต่ คสช.เห็นว่าควรเร่งศึกษาให้เร็วขึ้น จึงทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแบบ และลดเนื้องานสุวรรณภูมิระยะ 2  บางส่วนลง ส่วนรูปแบบการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารในประเทศ กำลังศึกษาว่าจะสร้างเพื่อใช้รับเที่ยวบินในประเทศอย่างเดียว หรือรองรับได้ทั้งผู้โดยสารในและต่างประเทศ โดยใช้เงินลงทุน 1-1.3 หมื่นล้านบาท บริเวณทางเหนือของอาคารสะพานเทียบเครื่องบิน (คองคอร์ด) เอ รองรับได้ 15-20 ล้านคน/ปี

“การขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 จะใช้งบ 6.25 หมื่นล้านบาท เพิ่มความจุเป็น 60 ล้านคน/ปี การสร้างเทอมินัลโดเมสติก ทำให้ต้องปรับลดงบเฟส 2 บางส่วน เพื่อเกลี่ยงบในการก่อสร้าง อาคารในประเทศ ทำให้มีผู้โดยสาร75-80 ล้านคน/ปี"นายเมฆินทร์กล่าว

ด้านการตรวจสอบโครงการการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 อยู่ระหว่างตรวจสอบความโปร่งใส และการแก้ไขแบบบางส่วนจาก คตร. คาดว่าภายใน 1-2 เดือนจะหาข้อสรุปได้ และเปิดการประมูล คาดจะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนปี 2560 และใช้เวลาประมาณ 58 เดือน เร็วกว่าแผนเดิมที่กำหนด 70 เดือน ส่วนเงินลงทุนตอนนี้ ทอท.มีความพร้อมเต็มที่ โดยมีกระแสเงินสดในบริษัทมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท สามารถกู้ได้เพิ่มอีก 1.8-2 แสนล้านบาท ซึ่งในปี 2559 ทอท.มีแผนจะระดมทุนเพิ่ม 4.4 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ขยายการลงทุน

นายเมฆินทร์ กล่าวว่า สำหรับแผนการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ที่อยู่ภายใต้การบริหารของกองทัพอากาศ กระทรวงคมนาคมให้ ทอท.มาช่วยทำการศึกษา เบื้องต้นอาจใช้วบประมาณ 2,000-4,000 ล้านบาท เพื่อปรับพื้นที่บางส่วนให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ รองรับผู้โดยสาร 2.5 ล้านคน แต่พื้นที่หลักก็ยังคงไว้สำหรับใช้กิจกรรมของกองทัพด้วย ขณะที่แผนขยายความจุของสนามบินดอนเมือง  ปัจจุบันรองรับผู้โดยสารได้ 18.5 ล้านคน  และจะมีแผนเพิ่มเป็น 30 ล้านคนในเดือนต.ค.นี้ แต่ในระยะต่อไปจะเพิ่มให้รองรับได้เป็น 40 ล้านคนในปี 2558 เพิ่มเป็น 60 ล้านคนในปี 2559 เพื่อรองรับการเติบโตของสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์ แอร์ไลน์) ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี

ล่าสุดทอท.ได้มุ่งพัฒนาบุคลากร โดยร่วมกับสถาบันฝึกอบรมคอมพาส ซึ่งเป็นสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการองค์กร และมหาวิทยาลัย คอร์เนลล์  ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดฝึกอบรมกลุ่มพนักงานผู้มีศักยภาพ ให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงาน และบริหารจัดการท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานการขนส่งทางอากาศ