หวั่นรง.น้ำตาลชุมชนแย่งอ้อยจี้คสช.ทบทวบ
โรงงานน้ำตาลหวั่นนโยบายบิ๊กตู่ผุดโรงงานขนาดเล็กใกล้ชุมชุนแย่งอ้อยจี้เร่งพิจารณาระบบราคาก่อนเปิดเออีซี
โรงงานน้ำตาลหวั่นนโยบายบิ๊กตู่ผุดโรงงานขนาดเล็กใกล้ชุมชุนแย่งอ้อยจี้เร่งพิจารณาระบบราคาก่อนเปิดเออีซี
นายสมศักดิ์ สุวัฒิกะ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) เปิดเผยว่า หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ให้นโยบายเกี่ยวกับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย โดยมีส่วนที่ให้กระทรวงอุตสาหกรรมไปพิจารณาเรื่องการผลักดันให้เกิดโรงงานน้ำตาลขนาดเล็กใกล้กับชุมชน หรือพื้นที่ปลูกอ้อยเพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
ทั้งนี้ หากประเมินแล้วก็มีความเป็นไปได้ที่จะนโยบายนี้จะเกิดขึ้นได้ กระทรวงฯ โดย สอน. จะต้องมีการหารือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะต้องมีการปรับปรุงกฎเกณฑ์ในส่วนใดและต้องมีมาตรการส่งเสริมอย่างไร แต่ทั้งนี้คาดว่าโรงงานน้ำตาลอาจจะไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เพราะอาจะเกรงจะเกิดปัญหาแย่งอ้อยที่จะป้อนโรงงาน
แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาล เปิดเผยว่า กรณีที่ คสช. อยากให้มีโรงงานน้ำตาลขนาดเล็กกระจายอยู่ใกล้พื้นที่ปลูกอ้อยนั้นต้องดูว่าขนาดเล็กในที่นี้หมายถึงมีกำลังการหีบอ้อยเท่าไร หากเล็กเกินไปก็จะมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ อาจะเป็นภาระตามมาภายหลัง ขณะเดียวกันการจะขึ้นโรงงานใหม่ปัจจุบันต้องคำนึงถึงผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่องเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น โรงไฟฟ้า รวมถึงโรงงานผลิตเอทานอล เพื่อเมื่อราคาน้ำตาลปรับลดลงโรงงานยังมีรายได้จากผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง และยังอาจสร้างปัญหาการแย่งอ้อยผลผลิตที่จะป้อนโรงงานด้วย
อย่างไรก็ตาม การจะเพิ่มเติมนโยบายต้องคำนึงถึงผลผลิตอ้อยด้วย เนื่องจากปัจจุบันอ้อยที่ผลิตได้มีอยู่ประมาณ 103-104 ล้านตันอ้อย ป้อนโรงงานน้ำตาลประมาณ 50 แห่งทั่วประเทศ แต่หากจะให้มีโรงงานน้ำตาลเพิ่มขึ้นก็ต้องมีแนวทางในการเพิ่มพื้นที่ผลิตและปริมาณอ้อยที่จะเข้าโรงงาน
ในส่วนของนโยบายจัดพื้นที่ปลูกอ้อย หรือโซนนิ่ง ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้วที่จะเปลี่ยนนาข้าวมาปลูกอ้อยและจะทำให้มีพื้นที่ปลูกอ้อยเป็น 10 ล้านไร่ นั้น จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมของพื้นที่ด้วย ไม่เพียงแต่เพิ่มปริมาณแต่ต้องคำนึงถึงต้นทุนโลจิสติกส์ คือพื้นที่ส่งเสริมต้องไม่ห่างไกลจากโรงงานจนเกินไป
แหล่งข่าว กล่าวว่า ประเด็นที่อยากให้ คสช. เร่งพิจารณาคือโครงสร้างราคาน้ำตาล ที่ต้องมีการแก้ไขก่อนจะเปิดประชาคมอาเซียนที่การค้าระหว่างกันจะเสรีมากขึ้น แต่ในส่วนราคาน้ำตาลในส่วนโควตา ก. หรือโควตาเพื่อบริโภคในประเทศยังถูกควบคุมให้ราคาอยู่ในระดับต่ำ เพื่อนบ้านบางประเทศราคาสูงกว่าไทยเกือบเท่าตัว เมื่อเปิดอาเซียนแล้วจะทำให้เกิดการลักลอบนำน้ำตาลในประเทศออกไปขายเพื่อนบ้านมากขึ้น
“เรื่องปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบจะต้องคุยกันทั้ง 3 ฝ่ายทั้งโรงงาน ชาวไร่อ้อยและภาครัฐ ต้องเร่งให้ได้ข้อสรุปเรื่องนี้ก่อนเปิดเออีซี ไม่เช่นนั้นแม้เราจะเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ของโลกแค่ไหน ก็อาจจะมีปัญหาได้” แหล่งข่าว กล่าว
แหล่งข่าว กล่าวว่า ราคาน้ำตาลในตลาดโลกขณะนี้อยู่ที่ 17 เซนต์ต่อออนซ์มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอีกในระยะ 1 ปีข้างหน้า โดยราคาส่งมอบในเดือนต.ค. 2557 อยู่ที่ 17.05 เซนต์ต่อออนซ์ เดือนมี.ค. 2558 อยู่ที่ 18.60 เซนต์ต่อออนซ์ ส่งมอบเดือน พ.ค. และ ต.ค. 2558 อยู่ที่ 18.8 และ 19.0 เซนต์ต่อออนซ์ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องจากตลาดมองว่าประเทศผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ๆ อาจมีปัญหาในการผลิตโดยเฉพาะปัญหาจากภูมิอากาศที่จะกระทบต่อผลผลิตอ้อยทั้งในบราซิล อินเดีย และไทย.