กสทช.แนะกูเกิลอิงโมเดล"แอปเปิลสโตร์"

กสทช. ขอกูเกิลเพลย์อิงโมเดล แอปเปิล สโตร์ กรอกรหัสก่อนกดซื้อ เรียกไลน์เข้าหารือเพิ่ม 2 ก.ค.

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า หลังประชุมร่วมกับ บริษัท กูเกิล ประเทศไทย ได้ขอให้ทางกูเกิลแจ้งไปยังบริษัทแม่ ว่าให้กำหนดการยืนยันรหัสผ่าน (พาสเวิร์ด) ก่อนจะซื้อแอพพลิเคชั่นใดๆ ในเพลย์ สโตร์ ในลักษณะเดียวกับ แอปเปิล สโตร์ ของ ค่าย แอเปิล เพื่อให้การซื้อต่างๆ มีความปลอดภัยมากขึ้น และป้องกันการกดซื้อหรือดาวน์โหลดบริการโดยไม่ตั้งใจ

ทั้งนี้ ยังต้องการให้การส่งอีเมล์ยืนยันกลับมาที่ลูกค้าทุกครั้งเป็นภาษาไทยแทนภาษาอังกฤษเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่าย ซึ่งทางกูเกิล ประเทศไทย จะแจ้งให้ทางฝ่ายเทคนิคของกูเกิลที่สิงคโปร์ เป็นผู้ดำเนินการ เนื่องจากบริการที่เป็นปัญหาอยู่นี้ เป็นความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง กูเกิล และ สิงเทล ผู้ถือหุ้น ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส)

นอกจากนี้  ในวันที่ 2 ก.ค. 2557 จะเชิญผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น ไลน์ แชท เจ้าของเกมคุ้กกี้รันเข้าหารือพร้อมกับฝ่ายเทคนิคของบริษัท กูเกิล จากสิงคโปร์ และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ กรณีการซื้อสินค้าและบริการผ่านกูเกิลเพลย์สโตร์ ด้วยระบบการเรียกเก็บบริการเสริมผ่านบิลโทรศัพท์มือถือ (ดีซีบี) เพื่อหามาตรการในการดูแลผู้ใช้บริการนี้

น.พ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ด้านคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการระบบดีซีบีของเอไอเอสที่ให้บริการภายใต้ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค (AWN) จำนวน 1.37 หมื่นราย มีผู้ร้องเรียนเข้ามาที่กสทช.ในกรณีนี้คุกกี้รันและเกมที่ตัดเงินจากระบบดีซีบี จำนวน 13 ราย รวมมูลค่าความเสียหายที่ 1.1 ล้านบาท ซึ่งกรณีของเอไอเอสที่ทำสัญญากับกูเกิล จะตรวจสอบว่าเป็นการทำสัญญาโทรคมนาคมหรือไม่ เนื่องจากทางเอไอเอสแจ้งเพียงว่า เป็นผู้เก็บค่าบริการแทน ซึ่งเป็นส่วนของการซื้อสินค้าและบริการ

อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายโทรคมนาคมระบุคำว่า บริการเสริม สามารถเรียกเก็บค่าบริการในบิลเดียวกันได้โดยไม่ต้องแยกบิล และอีกกรณีที่ต้องพิจารณาคือ การที่เอไอเอสนำข้อมูลลูกค้าไปผูกติดกับกูเกิลว่าเป็นการกระทำที่ผิดกับกฎหมายหรือไม่ โดยจะให้ทีมที่ปรึกษาตรวจสอบและนำเรื่องเข้าหารือในที่ประชุมบอร์ดกทค. ต่อไป