posttoday

คสช.ช่วยค่าอ้อย 160 บาทต่อตัน

25 มิถุนายน 2557

คสช.อนุมัติเงินเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิต 2556/57 อีก 160 บาท/ตันอ้อยเชื่อเพิ่มสภาพคล่องชาวไร่ใช้เป็นทุนหมุนเวียนฤดูกาลหน้า

คสช.อนุมัติเงินเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิต 2556/57 อีก 160 บาท/ตันอ้อยเชื่อเพิ่มสภาพคล่องชาวไร่ใช้เป็นทุนหมุนเวียนฤดูกาลหน้า

นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้อนุมัติ 2 เรื่องสำคัญของกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องแรกคืออนุมัติเงินค่าอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิต 2555/56 ที่ระดับราคาเฉลี่ยทั่วไประเทศ 999.20 บาท/ตันอ้อย ระดับความหวาน 10 ซี.ซี.เอส.  ซึ่งล่าช้ามาหลายเดือนจากเดิมที่ต้องสรุปได้ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2556 เนื่องจากการไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องกากน้ำตาลระหว่างชาวไร่อ้อยและโรงงานน้ำตาล  ประกอบกับในช่วงปลายปี 2556 เริ่มมีประเด็นความขัดแย้งทางการเมือง ทำให้การพิจารณาเรื่องนี้ล่าช้ามาจนถึงปัจจุบัน 

เรื่องที่สองคือการอนุมัติเงินเพิ่มค่าอ้อยฤดูการผลิต 2556/57 ที่ 160 บาท/ตันอ้อย เพิ่มเติมจากเงินค่าอ้อยขั้นต้นที่ 900 บาท/ตันอ้อย พร้อมทั้งอนุมัติให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย(กท.) ดำเนินการกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.) เพื่อมาจ่ายเงินเพิ่มดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะต้องมีการกู้เงินประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท และให้คงเงินที่เก็บจากการขายน้ำตาลทรายในประเทศที่ 5 บาทต่อกิโลกรัม เพื่อใช้สำหรับการชำระหนี้ที่กู้มาจ่ายเงินเพิ่มค่าอ้อยให้เกษตรกรดังกล่าว

“เงินเพิ่มที่ 160 บาท/ตันอ้อย จะช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยจำนวน 3 แสนล้านคน ให้ได้รับเงินที่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตตามสมควร มีสภาพคล่องที่นำไปชำระหนี้สิน และมีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับฤดูการผลิตถัดไป” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ยังได้ย้ำในที่ประชุม คสช. การอนุมัติครั้งนี้เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาระยะสั้น ได้สั่งการให้กกระทรวงอุตสาหกรรมหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะยาวด้วย   ซึ่งกระทรวงฯ ได้มีแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายระยะ 8 ปีอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างเตรียมการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบเพื่อรับกับการเปิดประชาคมอาเซียน ซึ่งหลังจากนี้จะมีการกลับไปรวบรวมเพื่อนำเสนอต่อ คสช. ต่อไป

นายธีระชัย แสนแก้ว ประธานชมรมสถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน กล่าวว่า จากคสช.ได้เห็นชอบการเพิ่มค่าอ้อย 160 บาทต่อตันจะมีส่วนสำคัญต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจเพราะเงินจำนวนนี้จะไปหมุนเวียนในการใช้จ่ายโดยเฉพาะการบำรุงตออ้อยและปลูกอ้อยในฤดูการใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับเกษตร 2 แสนครัวเรือนหรือ 1 ล้านคน ทำให้ราคาที่จะได้รับรวมเป็น 1,060บาทต่อตันซึ่งทำให้พอที่จะคุ้มทุนกับต้นทุนที่อยู่ประมาณ 1,000 บาทต่อตัน

นายสมศักดิ์ สุวัฒิกะ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) กล่าวว่า   ขั้นตอนหลังจากได้รับอนุมัติทางกองทุนอ้อยและน้ำตาล(กท.)ก็จะดำเนินการทำแผนกู้เงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์(ธ.ก.ส.) วงเงินประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทโดยนำรายได้จากราคาน้ำตาลทรายในประเทศ 5 บาทต่อกิโลกรัมชำระหนี้คืน คาดว่าเงินดังกล่าวจะถึงมือชาวไร่อ้อยประมาณเดือนก.ค.