posttoday

คสช.จัดระเบียบวินรถตู้ให้เสร็จก.ค.นี้

21 มิถุนายน 2557

คสช.จัดระเบียบรถตู้โดยสารเปิดให้ลงทะเบียนจัดทำข้อมูล-ห้ามจอดรถกีดขวางจราจรแบ่งดำเนินงานเป็น3ระยะ

คสช.จัดระเบียบรถตู้โดยสารเปิดให้ลงทะเบียนจัดทำข้อมูล-ห้ามจอดรถกีดขวางจราจรแบ่งดำเนินงานเป็น3ระยะ

เมื่อวันที่21มิ.ย. ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์(พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า พล.ต.สมโภชน์ วังแก้ว ผบ.พล.ม. 2 รอ. เป็นประธานการประชุมชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้แทนส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ให้บริการรถตู้โดยสาร โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการเรียกประชุมดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะต้องไม่มีผู้มีอิทธิพลเก็บค่าหัวคิวผู้ประกอบการ ทำให้ผู้ประกอบการอ้างว่าจะต้องไปเก็บค่าโดยสารเพิ่ม และการจอดรถทุกประเภทจะต้องไม่กีดขวางการจราจร ให้ทุกหน่วยงานดำเนินการตามสภาพพื้นที่ที่รับผิดชอบ จัดทำบัญชีผู้มีอิทธิพลที่เกี่ยวข้อง กรณีผิดกฎหมายต้องดำเนินการตามระเบียบให้ถูกต้องซึ่งที่ประชุม แบ่งแนวทางการปฏิบัติแบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 จัดระเบียบที่จอดรถ จัดทำป้ายบอกราคา ปรับพฤติกรรมผู้ขับขี่ เช่น การแต่งกาย มารยาท บัตรแสดงตนใบอนุญาตถูกต้อง สภาพรถ ค่าโดยสาร รวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล จัดทำข้อมูลวินโดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิถุนายน
         
ระยะที่ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบให้มีการลงทะเบียนสอบประวัติและร่วมพิจารณาจำนวนวิน จำนวนรถตู้ ที่มีความเหมาะสมภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และจัดให้มีมาตรฐานการบริการในลักษณะเป็นส่วนย่อยของ บขส.โดยต้องมีสถานที่ขายตั๋ว ที่พักผู้โดยสาร ห้องน้ำ และไม่จอดรถกีดขวางการจราจรปรับบริเวณพื้นที่จุดรับส่งให้เป็นระเบียบ ปรับเส้นทาง จดทะเบียนให้ถูกต้อง ปรับปรุงมาตรการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคม
         
ระยะที่ 3 เป็นขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขผลกระทบที่ยั่งยืน ได้แก่ การติดตามประเมินผลความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ แก้ไขข้อกำหนดและกฎหมาย และบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง
         
อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการจัดระเบียบให้หน่วยทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ ประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบรายงานผลการดำเนินงานให้ พล.ม.2 รอ.รับทราบ เพื่อรายงานกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป รวมถึงการจดทะเบียนใหม่จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างโปร่งใส ทหารต้องไม่เข้าไปมีอิทธิพลเอง เพราะเป็นเพียงแค่ผู้ประสานงานให้ทุกส่วนเร่งรัดดำเนินการเท่านั้น