"บิ๊กตู่"ฉุนเคาะ 3 ล้านล. สนข.กลับลำแค่แผน

ประยุทธ์ฉุนข่าว คสช.อนุมัติลงทุน 3 ล้านล้าน คมนาคมกลับลำ แค่แผนเบื้องต้นยังไม่เคาะขั้นสุดท้าย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธว่า คสช.ไม่เคยอนุมัติแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3 ล้านล้านบาท พร้อมทั้งระบุว่า การปล่อยข่าวดังกล่าว ทำให้ คสช.ทำงานลำบากมากขึ้น

"โครงการ 3 ล้านล้านบาท ผมก็ยังไม่ได้อนุมัติเลย ต้องไปถามสำนักงบประมาณว่ามีเงินอยู่เท่าไร ซึ่งผมคิดว่ามีบางคนปล่อยข่าว เพื่อให้ประชาชนเรียกร้องและทำให้งานเราสะดุด ดังนั้นอยากให้ช่วยกันอธิบายกับสังคม เพราะจะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะจะทำให้เกิดความเสียหาย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ได้รับทราบแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ 5 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาทางรางทั่วประเทศ ระบบขนส่งมวลชนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ทางถนน น้ำ และอากาศแล้ว ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะจัดลำดับความสำคัญและหมวดหมู่โครงการ ตลอดจนความพร้อมในแต่ละโครงการที่จะนำไปบรรจุในงบประมาณรายจ่ายแต่ละปี และเสนอให้ พล.อ.อ. ประจิน ในวันที่ 19 มิ.ย. ก่อนเสนอให้ คสช.พิจารณาในวันที่ 24 มิ.ย.นี้

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง 4 เส้นทางนั้น สนข.จะแยกออกมาศึกษาต่างหาก และเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน พิจารณาก่อนเสนอให้ คสช.ตัดสินใจว่าควรเดินหน้าหรือไม่ ซึ่งการศึกษาคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 3 เดือน

นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การประชุมร่วมกับ พล.อ.อ.ประจิน เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นเพียงการนำแผนยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศให้ พล.อ.อ.ประจิน รับทราบเท่านั้น ยังไม่ได้กำหนดตัวเลขและรายละเอียดที่ชัดเจนว่าจะต้องใช้วงเงินถึง 3 ล้านล้านบาททันที

"ในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ กระทรวงคมนาคมจะหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณารายละเอียดแต่ละโครงการและงบประมาณที่ใช้ในแต่ละปีว่าจะใช้เท่าไร โดยจะเรียงลำดับโครงการที่จำเป็นต้องดำเนินการก่อนหลัง ขณะเดียวกันจะพิจารณาด้วยว่าควรจะตัดโครงการไหน ออกไปก่อนหรือไม่ และหาก พล.อ.อ. ประจิน เห็นชอบแผนก็ต้องไปดูว่าจะเอาเงินมาจากไหน" นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย ระบุว่า สำหรับยุทธศาสตร์โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนเข้ามาก็ต้องทำ เพราะเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งและเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูงยังไม่ได้ยกเลิก เพียงแต่ไม่ได้ถูกบรรจุในแผนยุทธศาสตร์นี้