7-11คาดช่วงบอลโลกดันรายได้โต20-30%

เซเว่นอีเลฟเว่นปรับตัวรับบอลโลก เพิ่มตู้แช่ สต็อกสินค้ายอดฮิตสำหรับคอบอล หวังรายได้เติบโต 20-30%

นายอำพา ยงพิศาลภพ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี ออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะเริ่มวันที่ 12 มิ.ย.นี้และการแข่งขันส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ 23.00น.ซึ่งเหลืออีกเพียงชั่วโมงเดียวก่อนร้านเซเว่นอีเลฟเว่นจะปิดให้บริการเวลา 24.00 น. ตามเวลาเคอร์ฟิวนั้น เชื่อว่าผู้บริโภคจะวางแผนการซื้อสินค้าสำหรับทานหรือดื่มในช่วงเวลาดูบอลเช่นกัน

นอกจากนี้ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นยังได้ปรับตัวรับกับสถานการณ์ด้วยการดูสถิติการขายจากช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน ที่พบว่า สินค้ากลุ่มเครื่องดื่มให้พลังงาน เบเกอรี่ อาหารแช่แข็งพร้อมทาน มีอัตราการเติบโตสูงขึ้น ดังนั้นในปีนี้บริษัทจะเพิ่มสินค้ากลุ่มดังกล่าวเข้ามาสต็อกในร้านมากขึ้นด้วย เพื่อรองรับกับการความต้องการของลูกค้า เช่น การเพิ่มตู้แช่อาหารแช่แข็งพร้อมทานอีก 1 ตู้ เป็น 2 ตู้ ในสาขาที่คาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายดูบอล เป็นต้น

“ปกติยอดขายช่วงการแข่งขันบอลโลกจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากช่วงปกติ ซึ่งปีนี้จากสถานการณ์เคอร์ฟิว และการแข่งขันบอลโลกที่ดึกมากกว่าทุกปี อาจกระทบกับยอดขายบ้าง แต่เชื่อว่าไม่มากเพราะผู้บริโภคปรับตัวได้เร็ว โดยอาจเติบโตได้ 20-30%”นายอำพากล่าว

ทั้งนี้เห็นจากช่วง คสช.ประกาศเคอร์ฟิวครั้งแรกเวลา 22.00 – 05.00 น. ผู้บริโภคได้ปรับพฤติกรรมการซื้อสินค้าตาม โดยซื้อของเร็วขึ้นก่อนร้านปิด และวางแผนการซื้อไว้ทานสำหรับเวลากลางคืนในช่วงเคอร์ฟิว ส่งผลให้ยอดขายของเซเว่นอีเลฟเว่นช่วงก่อนปิดร้านเพิ่มขึ้นด้วย โดยกระทบเพียงช่วง 3 วันแรกหลังประกาศเคอร์ฟิวเท่านั้น จากนั้นเมื่อผู้บริโภคปรับพฤติกรรมได้ ก็เข้าสู่ภาวะปกติ

ปัจจุบัน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นมีสาขาเปิดให้บริการรวม 7,771 สาขา และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 8,000 สาขาในสิ้นปีนี้ โดยแต่ละสาขามีลูกค้าเข้าใช้บริการเฉลี่ยกว่า 1,000 คน คิดเป็นรายได้ประมาณกว่า 7 หมื่นบาทต่อสาขาต่อวัน