อิรักเลิกบัญชีดำข้าวไทยพณ.เจรจาขาย3แสนตัน

พาณิชย์ยิ้มรับข่าวดีอิรักปลดล็อกยอมซื้อข้าวจากไทย เชิญผู้บริหารมาเยือน เม.ย.นี้ เพื่อเจรจาขาย 3 แสนตัน

นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการเดินทางเยือนประเทศอิรักเพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ข้าวไทย หลังอิรักประกาศห้ามนำเข้าข้าวไทยตั้งแต่เดือน ส.ค. 2556 เพราะมีการส่งออกข้าวด้อยคุณภาพว่า ทางรัฐบาลอิรักและหน่วยงานบริหารนำเข้าข้าวอิรักได้ยินยอมอนุญาตให้บริษัทส่งออกข้าวไทยสามารถยื่นประมูลขายข้าวให้อิรักได้อีกครั้ง หลังจากได้ทำความชี้แจงทำความเข้าใจ หลังจากนี้กรมการค้าต่างประเทศจะจัดทำรายละเอียดและตัวอย่างข้าวที่จะเสนอขายให้อิรักได้ตรวจสอบ

ทั้งนี้ จะเชิญผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานนำเข้าข้าวอิรักมาเยือนไทยในเดือน เม.ย.นี้ โดยในเบื้องต้นทางอิรักสนใจซื้อข้าวนึ่ง และข้าวหอมมะลิของไทยเพิ่มขึ้น

“การที่ผู้บริหารอิรักจะมาไทย ถือเป็นโอกาสที่จะทำให้ไทยสามารถเจรจาขายข้าวให้อิรักได้เหมือนเดิม จากที่อิรักเคยนำเข้าข้าวไทยปีละ 5-6 แสนตัน โดยไทยจะเจรจาขายจีทูจีกับอิรักไม่ต่ำกว่า 3 แสนตันในเร็วๆ นี้ เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปถึงขั้นทำสัญญาซื้อขายภายใน 2 เดือนนี้ โดยได้ตั้งทีมพิเศษเพื่อดูแลการขายข้าวให้อิรักโดยเฉพาะ” นายสุรศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในสัปดาห์หน้ากรมการค้าต่างประเทศจะออกประกาศหลักเกณฑ์ (ทีโออาร์) เปิดประมูลบริษัทปรับปรุงคุณภาพข้าวเพื่อส่งออกไปจีนอีก 4.5 หมื่นตัน จากที่ได้ผ่านคัดเลือกแล้ว 5.5 หมื่นตัน เพื่อให้ครบจำนวนที่จะส่งมอบจีนล็อตแรกในเดือน เม.ย.นี้ พร้อมกับออกประกาศหลักเกณฑ์เปิดประมูลข้าวทั่วไปในภูมิภาคโดยจะเริ่มที่ จ.สุพรรณบุรี และเชียงราย รวม 2-3 แสนตัน

นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระบุจะเร่งพิจารณาคดีที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับรัฐบาลจีนให้เสร็จสิ้นโดยเร็วอย่างช้าภายในต้นเดือน เม.ย.นี้ว่า แล้วแต่ ป.ป.ช.จะดำเนินการ จะเร่งรัดอย่างไรก็ได้ พร้อมจะต่อสู้ให้ถึงที่สุดเช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็พร้อมจะต่อสู้ด้วย แต่อยากให้ ป.ป.ช.ดำเนินการด้วยความเป็นธรรม